Yokekung กับ Gear Fit เพื่อนคู่หูของการออกกำลังกาย
ได้มีโอกาสทดสอบและใช้งาน Samsung Gear Fit ในช่วงที่กำหนดสนุกกับการออกกำลังกายคอร์ส T25 พอดี เล่าคร่าวๆก่อนว่า Samsung Gear Fit คือนาฬิกาอัจฉริยะ หรือเราเรียกว่า Smart Watch ที่สามารถจับจำนวนก้าวที่เราเดิน วัดอัตราการเต้นของหัวใจ วัดการเคลื่อนไหวของร่างกายเรา วัดการนอนหลับของเราว่าหลับสนิทหรือเปล่า เป็นเครื่องควบคุมมัลติมีเดียที่ทำงาน และ sync กับอุปกรณ์ของ Samsung โดย Samsung Gear Fit ใช้ร่วมกันกับอุปกรณ์ทั้งหมด 20 รุ่น ได้แก่ Samsung Galaxy S5 / Galaxy Grand 2 / Galaxy Note 3 / Galaxy Note 2 / Galaxy S4 / Galaxy S3 / Galaxy S4 Zoom / Galaxy S4 Active / S4 mini / Galaxy Mega 6.3 / Galaxy Mega 5.8 /
Galaxy Note 10.1 (2014 Edition) / Galaxy NotePRO (12.2) / Galaxy TabPRO (12.2/10.1/8.4) ซึ่งบางตัวอาจจะขายในไทย บางตัวไม่ได้ขายในไทย โดยผมทดสอบจับคู่การทำงานกับ Samsung Galaxy S5 ข้อมูลผลิตภัณฑ์
ก่อนอื่นขอกล่าวถึงสเปคของ Samsung Gear Fit แบบเข้าใจง่ายกันก่อน
ถ้าคุณไม่ได้เชี่ยวชาญสเปคสมาร์ทโฟน ผมบอกง่ายๆเลย เหมือนมีโค้ชอยู่บนข้อมือคุณ
– แสดงผลบนขนาดหน้าจอโค้งขนาด 1.84 นิ้ว ความละเอียดระดับ Super AMOLED ระบบสัมผัส เอานิ้วแตะหน้าจอได้เหมือนมือถือ (เจ้าตัวนี้ชาร์จไฟผ่านพอร์ต Micro USB หรือที่ชาร์จมือถือปกติ แต่ใช้ตัวอแดปเตอร์ติดกับตัวนาฬิกาอีกที)
– เล่นกีฬาได้เต็มที่ไม่ต้องกลัวเหงื่อ ไม่ต้องกลัวน้ำ กลัวฝุ่น เพราะรองรับมาตรฐาน IP67 ดังนั้น เอาไปวิ่งลุยได้เต็มที่ แต่ไอ้ลุยฝน ฝ่าฝน น่าอย่าเลย
– Accelerometer, Gyroscope, และเซ็นเซอร์ตรวจจับการเต้นของหัวใจ โดยใช้เซ็นเซอร์ใต้นาฬิกา หรือถ้าใครใช้ S5 ก็ใช้เซ็นเซอร์หลัง S5 วัดการเต้นหัวใจ แล้วมันก็ sync กันได้
– รองรับ Bluetooth 4.0 LE และทำงานร่วมกับ Samsung รุ่นที่ว่ามาข้างต้น (จะบอกว่า Bluetooth เวอร์ชั่นนี้ ประหยัดพลังงานเป็นเลิศ คือเราเปิด Bluetooth นาฬิกา กับ Bluetooth มือถือไว้ตลอดเวลาก็ไม่ต้องกังวลว่าแบตจะหมดเร็ว
เท่าที่ผมใช้งาน จับการก้าวเดินในแต่ละวัน แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 2 – 4 วัน บางวันลืมกดนับก้าว บางวันใส่เป็นนาฬิกาอย่างเดียว แบตอึดมากครับ
ผู้ช่วยแจ้งเตือน
นอกจากใช้ในการออกกำลังกายแล้ว Samsung Gear Fit ยังสามารถแจ้งเตือนของ อีเมล์, SMS, สายโทรศัพท์เข้า อ้อ เจ้านี่เรารับสายจากข้อมือไม่ได้นะครับ แจ้งเตือนอย่างเดียว
และแอพอื่นๆ อันนี้ผมชอบมาก เวลาอยู่ที่ออฟฟิศ ผมเองมักจะวางมือถือไว้บนโต๊ะ แล้วเดินไปห้องน้ำ เดินไปห้องครัว (ของออฟฟิศ) ทำให้ถ้าเราอยู่ไม่ไกลจากมือถือนัก ในระยะสัญญาณ Bluetooth ยังเชื่อมโยงกัน เราก็จะรู้ว่ามีคนโทรเข้ามาหาเรา (อย่างที่บอกไปว่าเรารับสายจาก Gear Fit ไม่ได้หรอกนะ แต่วิ่งมารับสายได้ทัน) แถมผมหูไม่ค่อยดี ไม่ค่อยได้ยินเสียงโทรศัพท์ ก็อาศัยการแจ้งเตือนผ่านนาฬิกาเนี่ยแหล่ะ อ้อ เจ้านาฬิกานี่สั่นได้ด้วยนะ
ส่วนใครใช้ในโรงหนัง (อันนี้ผมยังไม่ได้ลอง) แต่คิดว่าถ้าปิดมือถือ หรือปิดเสียงมือถือ เปิดสั่น เราก็ตั้งค่านาฬิกาได้ หรือปิดนาฬิกาได้ยิ่งดี ถ้ากลัวแสงหน้าจอที่มันแจ้งเตือน จะแยงตาคนอื่น (ต่อไปโรงหนังอาจจะบอกว่า กรุณาปิดเครื่องมือสื่อสารและ wearable device ทุกชนิด ฮาา)
Samsung Gear Fit ทำอะไรได้บ้าง?
ภาพทุกภาพในรีวิวนี้ ถ่ายด้วย Samsung Galaxy S5 ดังนั้นผมขอรีวิวภาพถ่ายของ S5 ไปด้วยเลย (ทุกอย่างตั้งโหมด Auto)
หน้าตา Samsung Gear Fit บนข้อมือผม การล็อกสายนาฬิกากับข้อมือ ตอนแรกกลัวมันจะหลุด หล่นหาย แต่ผิดคาด มันเกาะแน่นข้อมือเราทั้งวัน แกว่งแขน ออกกำลังกายเหวี่ยงยังไงมันก็ไม่หลุด ไม่หล่น เมพมาก
การวัดการออกกำลังกาย จะมีการวัดการเดิน การวิ่ง จักรยาน การออกกำลังกาย อัตราการเต้นของหัวใจ (อันนี้ถ้าใครมี Samsung Galaxy S5 จะวัดอัตราการเต้นของหัวใจจากมือถือก็ได้เหมือนกัน แล้ว sync ข้อมูลมารวมกัน)
การนับก้าว เราสามารถกำหนดได้ว่า วันนึงเราจะมีเป้าหมายในการเดินกี่ก้าว จริงๆถ้าเราไม่ซีเรียสจำนวนก้าว เราอาจจะตั้งไว้ว่าจะเดินวันละกี่ กิโลเมตร หรือเดินเพื่อเผาผลาญกี่ kcal
เรื่องการเดินในแต่ละวันผมถามน้องชายผม น้องชายก็ให้ความเห็นว่า การเดินนับจำนวนก้าว แต่ก้าวสั้น เอาจำนวนก้าวเยอะเข้าว่า กับการเดินก้าวยาว แต่จำนวนก้าวน้อย เผาผลาญพลังงานต่างกัน
การวิ่ง วัดอัตราการเต้นของหัวใจด้วยว่าเราต้องวิ่งออกแรงแค่ไหน หัวใจเราถึงเต้นได้ตามจังหวะที่กำหนด เราเลือกกำหนดอัตราการเต้นของหัวใจได้เอง
การนอนหลับก็วัดโดยใส่นาฬิกานอน ระบบจะปิดการเตือนทุกอย่าง แล้วก็การใส่นาฬิกานอนเนี่ย เราจะดิ้น จะกลิ้ง ยังไงก็ไม่ต้องกังวลว่านาฬิกาจะหลุดจากข้อมือ (ยกเว้นตกเตียง / โดนถีบตกเตียง หรือกลิ้งไปไกล ฮาาา)
นอกจากนี้ยังจับเวลา ตั้งเวลา ช่วยในการออกกำลังกายได้อีกด้วย
ส่วนการแจ้งเตือน ผมชอบมาก เพราะผมจะรอ SMS แจ้งมีเงินเข้าบัญชี เราก็จะรู้ แม้ว่ามือถือาจจะวางบนโต๊ะ เราดูจากนาฬิกาง่ายกว่า แจ้งเบอร์ที่ไม่ได้รับสายได้ด้วย
ส่วนการวัดอัตราการเต้นของหัวใจก็จะใช้หลักการตรวจจากข้อมือของเรา มือต้องนิ่งๆ นิ่งมากๆ
อัตราการเต้นของชีพจรปกติอยู่ในช่วง
ทารกแรกเกิด ถึง 1 เดือน ประมาณ 120-160 bpm
1-12 เดือน ประมาณ 80 – 140 bpm
12-2 ปี ประมาณ 80 – 130 bpm
2 – 6 ปี ประมาณ 75 – 120 bpm
6 – 12 ปี ประมาณ 75 – 110 bpm
วัยรุ่น-วัยผู้ใหญ่ ประมาณ 60 – 100 bpm
ข้อมูลจาก มหิดล
ในช่วงปกติอัตราการเต้นขณะพักของผู้ชาย ควรอยู่ประมาณ 60-80 ครั้งต่อนาที ขณะที่ผู้หญิงอยู่ที่ 70-90 ครั้งต่อนาที ข้อมูล PatRunning ตอนออกกำลังกาย T25 หัวใจผมเต้นประมาณ 119 ครั้งต่อนาที
เรียกว่าฟังก์ชั่นเยอะทีเดียวสำหรับ Samsung Gear Fit แม้ว่าจะเป็น Smart Watch ที่บางคนมองว่า ทำอะไรไม่ได้เลย แต่กับราคา 5,990 บาท ผมว่าคุ้ม โดยเฉพาะตอนที่ผมหูไม่ดี ไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ก็ได้นาฬิกาสั่นเตือน รู้ตัวแน่ๆ เพราะมันสั่น เตือนเราว่ามีสายเข้า เราก็กวาดสายตามองหามือถือของเราได้ทันที
Yokekung with Gear Fit กับการใช้งานจริง
ผมใช้งาน Samsung Gear Fit ในการออกกำลังกาย ทั้งการเดิน การเล่น T25 ใส่ข้อมือตลอดทุกกิจกรรม ผมชอบนะ อยากได้เหมือนกัน เพราะมันวัดก้าวเดิน ทำให้เราหาเรื่องเดิน อยากเดิน เดินให้เยอะๆ เดินให้ครบ 10,000 ก้าว หรืออย่างต่ำ 5,000 ก้าวก็ยังดี
นับก้าวเดินในแต่ละวัน Gear Fit นับก้าวเดินแล้ว sync ข้อมูลกับ Samsung Galaxy S5 ที่ผมเชื่อมต่ออยู่ได้ และ reset จำนวนก้าวใหม่ในทุกๆวัน ทำให้เราไม่ต้องกังวลในการ sync ในทุกๆเช้าเดินออกจากประตููบ้านเราก็กดนับก้าว และหยุดตอนกลับมาถึงหน้าประตูบ้าน
ผมใส่ Gear Fit แล้วตั้งโหมด Running แต่ผมออกกำลังกาย T25 แทนการวิ่ง แล้วใช้วัดอัตราการเต้นของหัวใจหลังออกกำลังกาย
หรือแม้กระทั่งการเดินในตอนเช้า ก็ทำให้เราได้ออกกำลังกาย ได้รู้ว่าเบิร์นไปกี่ kcal
การทำงานของ Samsung Gear Fit จะทำงานโดยเชื่อมต่อกับ Gear Fit Manager กับมือถือ Samsung รุ่นที่รองรับเท่านั้น ส่วนเรื่องการวัดอัตราการเต้นหัวใจ การนับก้าวเดิน จะทำงานร่วมกับ S Health บนมือถือที่รองรับ
ซึ่งเราสามารถนำข้อมูลที่ sync มาวิเคราะห์และวางแผนในการออกกำลังกายได้ และเราจะได้ทราบสถิติในการเดิน วิ่ง ออกกำลังกาย พลังงานที่เผาผลาญ เพื่อนำมาจัดแผนการออกกำลังกาย การนับจำนวนก้าวในแต่ละวัน
การปรับแต่ง Samsung Gear Fit ทำได้เยอะอยู่ ทั้ง Wallpaper การเลือกแสดงผลหน้าจอแบบแนวนอน แนวตั้ง การเปิดปิด Bluetooth การเลือกกำหนดการยกแขนเพื่อปลุก Gear Fit ให้ตื่น ตอนแรกๆผมเผลอยกแขนขึ้นมาแล้วปลุก Gear Fit ก็งงว่าทำไมหน้าจอสว่าง พอไปตั้งค่าก็ปิดเงียบ ถ้าไม่มีอะไรแจ้งเตือนก็อยู่เงียบๆดี
โดยรวมแล้ว Samsung Gear Fit กับการออกกำลังกาย เวิร์คมาก ผมชอบมาก แล้วก็ช่วยแจ้งเตือนด้วย ยิ่งใช้งานกับ Samsung Galaxy S5 ยังปลื้ม ชอบสุดๆ แหม เล่นมาให้ผมรีวิวตอนออกกำลังกายพอดี inner มามันเต็ม อยากได้ซะแล้วล่ะ แล้วผมว่า wearable device จะช่วยให้เราสนุกกับการออกกำลังกาย อยากจะเดิน อยากจะขึ้นบันได อยากท้าทายตัวเองมากๆ ให้ได้ออกกำลังกาย ขอให้สนุกกับการออกกำลังกายกับ Gear Fit ครับ
2 thoughts on “Yokekung กับ Gear Fit เพื่อนคู่หูของการออกกำลังกาย”