จับประเด็นน่าสนใจจาก WebPresso (จิบกาแฟคนทำเว็บ) หัวข้อ “เทคนิคหางานและหาคนทำงานในสาย IT” จัดขึ้นโดยสมาคมผู้ดูแลเว็บไทยและ Adecco ณ ศูนย์การเรียนรู้เพื่อผู้ประกอบการ SMEs ธนาคารกสิกรไทย จามจุรีสแควร์ ชั้น 2
สำหรับผมนั้นทำงานสายไอทีมานาน ไม่ได้จบการตลาด ไม่ได้จบไอที แต่ด้วยความชอบและการศึกษา ฝึกฝน ทำให้ได้ทำงานในสายไอทีที่ชอบและรัก แต่ก็อยากรู้ว่าการคัดเลือกบุคลากรในสายไอทีของบริษัทใหญ่ๆเป็นอย่างไร
จากปกติที่หลายๆคนมองในภาพของการสมัครงานก็คือทำ Resume ตามทฤษฎี ตามหนังสือ เขียนตามแบบฟอร์ม แต่ถามว่าเอาเข้าจริง บริษัทจัดหางานทิ้งไหม เขาทิ้งไปด้วยความไม่น่าสนใจทั้งสิ้นเพราะไม่ได้อยากรู้ว่าวันเดือนปีเกิดอะไร ศาสนา สัญชาติอะไร เบอร์โทรอะไร แต่อยากรู้ทัศนคติ ความคิด แนวคิด อันดับแรกมากกว่า
โดยมีวิทยากรคือ
คุณ สมยศ อุดมนิโลบล ตำแหน่ง Channel Manager บริษัท 3Com ประเทศไทย จำกัด
คุณ กล้า ตั้งสุวรรณ จาก Duocore.tv หลายๆคนคงคุ้นหน้า หัวหน้าฝ่ายการตลาด บ. โธธ มีเดีย จำกัด / ผู้ก่อตั้ง, พิธีกร รายการ duocore.tv และสื่อออนไลน์อื่นๆอีกมากมา
คุณลวิตา ผิวงาม Team Leader – Adecco Engineering & IT Adecco Phaholyothin Recruitment Limited
หลายๆคนอยากทำงานในสายไอที บริษัทใหญ่ๆ บริษัทดังๆ มีชื่อเสียง เพราะมาพร้อมกับตำแหน่งหน้าที่และรายได้งาม แต่ก็ต้องมาด้วยความสามารถที่โดดเด่นและแตกต่างจากคนอื่นๆ แนวคิดไม่ได้เหมือนตอนเรียนเลย เพราะเราเองก็ไม่ได้จบสายไอที ไม่ได้จบคอม ไม่ได้จบการตลาด ไม่ได้จบบริหารเลยสักนิด มันอยู่ที่แนวคิดและทัศนคติ วิทยากรชี้แจเพราะผ่านการคัดเลือก Resume วันละร้อยๆใบ ร้อยๆคน แยกความแตกต่าง ความโดดเด่น โดยคนหางาน กับคนหาคนทำงาน ต้องจูนความคิดให้ไปในแนวเดียวกันได้
โดยความต้องการของคนหางาน ก็คือต้องการ Talent Based มากกว่า Skill Base ไม่ได้ต้องการบอกว่าทำอะไรได้บ้าง แต่ต้องการให้ชี้ไปว่าทำแล้วได้อะไร เกิดผลอย่างไร
บางคนส่ง Resume แล้วเงียบ ไม่ได้รับการตอบรับ เพราะการส่ง Resume แบบเดิมๆ ตามหนังสือ ส่งแบบเหมือนๆเดิมไม่มีอะไรแตกต่างเลย การเขียนแนะนำตัวเอง ไม่ควรจะเกิน A4 2 หน้า มากกว่านั้นเยอะไป คนคัดแยกคนหางานต้องเจอใบสมัครนับร้อยต่อวัน อย่างผมเองทำงานด้านไอที ความสามารถที่เราทำ คนที่เรารู้จักจะบอกต่อๆกันไป มีพวก มีพรรค มีคนรู้จักเยอะก็จะบอกต่อกัน อย่างผมเองเล่น Pantip มานาน ก็จะมีโปรไฟล์ที่น่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง ทำให้คนบอกต่อ เป็นโอกาสดีในการทำงาน
คำถามที่น่าสนใจของคนไอทีคือ เก่งมาก โปรแกรมเมอร์เก่งทุกอย่าง เจอคำถามเข้าไป “ลง Windows เป็นไหม” อึกอักบอกไปว่า เป็นครับ เจอดักคำถามต่อด้วยเทคนิคง่ายๆที่พอจะตรวจสอบได้ว่าจริงหรือไม่ ใส่ S/N ไม่ถูก หน้าจะจะขึ้นอย่างไร คนที่ลง Windows ไม่เป็น แต่โกหกว่าทำเป็น ตายก็ตอนนี้แหล่ะ เพราะโกหกนั่นเอง สรุปคือเป็นก็บอกว่าเป็น ไม่เป็นก็บอกว่าไม่เป็น แต่จะพยายามศึกษาและเรียนรู้ อันนี้ตอบดีมากกว่าอีก
อีกเรื่องคือ บางคนจบใหม่ไม่รู้ แต่งชุดนักศึกษาไปสมัครงาน ถือว่าแย่มากในฐานะคนจ้างงานเพราะคุณยังไม่พร้อมจะทำงานเลย ใส่ชุดสุภาพ ผูกไทด์ก็พอแล้ว มารยาท การวางตัวต้องเรียบร้อย
สำหรับคนที่เล่น Social Network อย่าง Hi5, MySpace, Twitter, Facebook นั้นมีโอกาสที่จะได้งานมากกว่า เพราะมีการแสดงลักษณะนิสัยให้คนอื่นได้รู้ และรู้ว่าชำนาญเชี่ยวชาญในด้านไหน หลายๆคนที่ทำ Community Online จะมีการเข้าไปคุยสนทนาปกติ แต่พอเจอคนที่ใช่ ก็คือจ้างให้ทำงาน ดังนั้นเราต้องเป็นตัวตนของเราให้มากที่สุด บางคนที่จ้างงาน จะมองในภาพของ Facebook, Twitter ดูหมดเลยว่าเพื่อนเป็นยังไง การคบเพื่อน กลุ่ม กิจกรรมยังไง หากเห็นแต่ภาพกินเหล้า สูบบุหรี่ แต่งโป๊ แม้จะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ก็มีผลกับการจ้างงานได้ หลายๆคนรวมทั้งผมเอง เวลาจะรับใครเข้าทำงาน จะค้นหาข้อมูลจาก Social Network ดูพฤติกรรม ดูการใช้คำพูด การแสดงอารมณ์บน Social Network เพราะเป็นตัวของตัวเองที่สุด
รวมไปถึง Linkedin ซึ่งเป็น Social Network ในการหาคน หางาน มีการส่งขอ recommendation อ้างอิงได้ด้วย โดยผู้หางานควรจะมีไว้ เป็นอินเตอร์มาก ควรทำเป็นภาษาอังกฤษไว้ด้วยเลย คนที่รู้จักเราในเครือข่าย Linkedin จะเป็นประโยชน์ในการคัดเลือกหางานมากๆ เพราะว่าหากมีเพื่อนต่างประเทศเยอะ ก็ไม่แปลกเรื่องภาษาอังกฤษเลย อันนี้เป็นตัวบ่งชี้ได้เลย
เรื่องของการโพสอะไรบน Social Network อย่าคิดว่าใครไม่เห็น เพราะเพื่อนของเพื่อนของเพื่อน อาจจะเป็นนายจ้างคุณในอนาคตได้ จำได้ว่าเมืองนอก มีคนได้งานแล้วไปโพสใน Facebook ว่าบริษัทนี้ดีไหม พอเจอข้อมูลไม่ดีก็โพสว่าจะเลือกที่ไหนดี ได้เงินเยอะ แต่ไม่อยากทำ สุดท้ายคนนี้ไม่ได้งานแล้วเพราะการโพสแบบนั้น
สิ่งที่ทุกคนที่สมัครงานต้องแสดงออกคือด้านภาษา โดยเฉพาะการทำ Resume ภาษาอังกฤษ การใช้อินเทอร์เน็ต ความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์ ความสามารถในการค้นหาบน Serach Engine
ทาง 3Com แนะนำว่า “สิ่งที่ควรยึดถือคือ ทำงาน 3 เท่าของเงินเดือน 1.ทำงานที่ได้รับAssign 2.ช่วยSaveค่าใช้จ่ายบริษัท 3.ทำให้บริษัทโตมีกำไร” อย่ามองว่าทำงานเพื่อสร้างครอบครัว อันนั้นคือนอกเวลางาน แต่ตอนทำงานต้องทำงานเพื่อสร้างผลกำไรให้บริษัทสูงสุดและได้ประโยชน์กับประเทศชาติ
อยากรู้ไหมเงินเดือนคนอื่นเท่าไหร สามารถโหลด Salary Guide2009-2010 ในรูปแบบ pdf ได้ที่ http://www.adecco.co.th สุดท้ายการสัมภาษณ์นั้นมองตั้งแต่วินาทีแรกที่สัมภาษณ์ ความประทับใจ ถูกชะตา การพูด ความตื่นเต้น การควบคุมอารณ์ สำคัญที่สุดนอกจากการแต่งตัว
การสัมมนาดีมากๆเพราะมีมุมมองใหม่ๆ เพราะผมเองนั้นก็ได้งานทางอินเตอร์เน็ต จากการเล่นเว็บ จากการใช้เวบบอร์ด การสร้างตัวตนของเราเอง มีคนรู้จัก มี Social ที่เชื่อมโยงกัน จะแนะนำกันต่อๆกันไปด้วยความเชื่อถือ คนที่เล่น Social Network จะมีโอกาสได้งานมากกว่าคนที่ไม่ใช้เลย เพราะมี Network คนดังๆ มีชื่อเสียง คนเก่งๆมากมาย เป็นโอกาสดีๆ ขอบคุณทุกคนที่ทำให้ผมมีวันนี้ครับ
@Yokekung