by iPad เปิดตัวออกมาเป็นทางการในประเทศไทย หลายๆค่ายออกโปรโมชั่น WiFi EDGE GPRS ให้ใช้ ทำให้หลายๆคนในตอนเลือกซื้อจะต้องเลือกแบบ Wi-Fi หรือ Wi-Fi + 3G ค่ายที่เห็นว่าครบครันที่สุดในการเชื่อมต่อก็คือ Truemove ซึ่งปัจจัยสำคัญในการใช้งานคงจะเป็นความพร้อมในการให้บริการ Wi-Fi และ EDGE ส่วนบางพื้นที่ใช้ 3G ได้ ก็จะได้ประโยชน์ไป จากกระแส iPad ทำให้ตระหนักว่า ตอนนี้ ไม่มีใครถามว่า 3G คืออะไร Wi-Fi คืออะไร ทุกคนปรับตัวและเคยชินกับการเชื่อมต่อ Wi-Fi แล้ว ในบางพื้นที่ หลายๆคนก็เชื่อมต่อ 3G กันจนเป็นปกติ
ทุกคนที่หาข้อมูล iPad หรือใช้ iPhone4 เริ่มรู้ว่า MicroSIM คืออะไร และมีอีกหลายๆคำศัพท์เทคนิค ที่คุณจะต้องรู้ในการเลือกแพ็คเกจ
เช่น EDGE/GPRS มีการคิดค่าบริการ 2 แบบคือ คิดตามปริมาณการใช้งาน และตามนาทีที่ใช้งาน
ผู้ใช้จะต้องเลือกการเชื่อมต่อ ให้เหมาะสม จะต้องรู้ว่า iPad ของตนเอง (หรือมีคนซื้อให้) รองรับ Wi-Fi หรือ 3G หากมี Wi-Fi ในพื้นที่ให้บริการ ก็ใช้งานได้ทั่วประเทศ ส่วนใครที่ใช้งานใน Starbuck KSC Hotspot ก็ใช้งานได้เช่นกัน
ใครใช้เบอร์บ้านทรู Hi-Speed True เอารหัสมาใช้ Wi-Fi กับ iPad Wi-Fi ได้เลย ส่วนใครใช้ 3BB หรือค่ายอื่น แต่ใช้ซิมทรูมูฟ ก็มีโปรให้ 250 บาทต่อเดือน
สิ่งที่ผู้ใช้ต้องรู้ก็คือ อุปกรณ์อย่างสมาร์ทโฟน และ iPad นั้น มีแอพที่ใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ดังนั้นจึงต้องรู้ว่า
การคิดค่าบริการแบบ MB เป็นยังไง เราใช้งานอะไร เพราะเอาเข้าจริงๆแล้ว EDGE 1GB ก็ถือว่าเยอะ 3G 1GB ก็เพียงพอกับการใช้งานทั่วๆไป
การใช้งาน Wi-Fi ไม่จำกัดช่วยให้ใช้งานได้สบายโดยไม่ต้องห่วงเรื่องชั่วโมงและค่าบริการตามปริมาณการใช้งาน
ศึกษาโปรโมชั่นให้ดีในการใช้งานของคุณเอง เพื่อไม่ให้ค่าบริการบานปลายครับ
หรือหากมี iPad Wi-Fi ก็แนะนำให้หา Mi-Fi มาใส่ซิม 3G แล้วใช้งานโดยผ่าน Wi-Fi ก็สะดวกดีครับ
