เปิดตัวสินค้าใหม่ล่าสุดจาก Apple ในงาน ‘Let’s Talk iPhone’

เปิดตัวกันไปแล้วกับสินค้าใหม่จาก Apple ที่หลายๆคนรอคอย กับข่าวลือที่ลือสะพัดกันได้ทุกวัน สรุปสั้นๆว่า ออก iPod Nano ตัวใหม่ iPod touch ลดราคา เปิดตัว iOS5 และคุณสมบัติบน iPhone4S (ไม่ใช่ iPhone5) อย่าง Siri
และสิ่งที่ทุกคนสนใจมากที่สุดคือข่าวลือว่า iPhone 5 จะออก หรือจะเป็น iPhone4S ตอนนี้เฉลยแล้วว่าไม่ใช่ iPhone 5 แต่เป็น iPhone4S นั่นเอง

เปิดตัว Tim Cook เป็นครั้งแรกในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple ในนามของ CEO ซึ่งได้เปิดตัวทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ใหม่ โดยผมจะนำคุณไปชมสินค้าใหม่ของ Apple โดยขอข้ามช็อตของข้อมูลทางการตลาดต่างๆเนื่องจากได้ทวิตลงใน twitter
#appleliveTH แล้ว คร่าวๆคือตอนนี้มี iOS Devices 250 Million ทั้ง iPhone, iPod, iPad และอื่นๆ โดยมีตัวเลขของ Mobile Installed Base iOS 43% Anroid 33% RIM 17% และอื่นๆอีก 7%
และแอพบน App Store มีกว่า 500,000 แอพ แต่เป็นแอพบน iPad 140,000 แอพ
เปิดตัวความน่าตื่นเต้นด้วย แอพ Cards สร้างการ์ดอวยพรโดยทาง Hallmark พิมพ์ให้ และจัดส่ง โดยจะมีข้อความแจ้งเมื่อผู้รับได้รับการ์ดแล้ว ค่าส่งอยู่ที่ $2.99 ใน US และ $4.99 ทั่วโลก
ต่อมาเป็นการเปิดตัว iOS 5 ซึ่งจะเปิดให้อัพเดตในวันที่ 12 ตุลาคมนี้ เด่นเรื่อง Notifications ที่เลื่อนลงมาด้านล่าง ไม่เด้งให้รำคาญใจอีกแล้ว และมี iMessage ที่เป็นตัวแช็ตเหมือนกับ BBM แช็ตคุยได้ทุกอุปกรณ์ นอกจากนี้เป็นแอพ reminder
ที่กำหนดสถานที่ ตำแหน่งที่ตั้ง และแนะนำว่าสถานที่ใดควรทำกิจกรรมอะไร และคอ twitter คงจะชอบ เพราะมี twitter ฝังมาในตัว แชร์ภาพจาก Photo เข้า twitter ได้เลย ไม่ต้องยุ่งยากเปิดแอพ แล้วถ่ายรูปอีกต่อไป
ต่อมาก็คือ NewsStand กับหนังสือพิมพ์ต่างๆ อย่าง New York Times
ส่วนการถ่ายภาพ สามารถถ่ายภาพได้จากหน้าจอ Lock Screen ไม่ต้อง unlock เพื่อเปิดแอพถ่ายภาพอย่างที่โดนแขวะกันประจำ นอกจากนี้ยังมีไอคอนกล้องบนหน้าจอ ถ่ายภาพด้วยปุ่ม Volume up รวมไปถึงการแตะ 2 ครั้งบนปุ่ม Home เพื่อถ่ายภาพ
สำหรับคอเกมก็มี Game Center ที่มีผู้ใช้กว่า 67 ล้านบัญชีแล้ว สามารถอัพเดตเพิ่มรูปของเพื่อน แต้มคะแนน และคำแนะนำดีๆจากเพื่อนได้ด้วย
ทางด้านการเล่นเว็บก็อัพเดต Safari ปรับมุมมอง รูปแบบในการอ่านเหมือนกับ iPad รวมถึงการสร้าง Readerlist ไว้อ่านทีหลัง และถ้ามีทั้ง iPhone iPad ก็ sync กันได้ การเล่นเว็บก็มี Full tabbed browsing ให้เลือกอ่านได้สะดวก
และสำหรับ Mail ก็ได้รับการพัฒนาการอ่านข้อความแบบใหม่ น่าใช้ยิ่งขึ้น
และสำหรับความหวังของการอัพเดตแบบไร้สายผ่าน PC Free ไม่ต้องง้อคอมพิวเตอร์ อัพเดตแบบ Wireless ได้เลย
ซึ่ง iOS 5 นั้นใช้งานได้บน iPhone4 iPhone3GS iPad2 iPad1 iPod Touch Gen 3, 4
มาต่อกันที่ iCloud เก็บคอนเทนต์ต่างๆบน Cloud แบบไร้สายได้บนทุกอุปกรณ์ โดยสามารถดาวน์โหลดและโหลดเพลงหรือสื่ออื่นๆได้ใหม่ได้ตลอดเวลาบนทุกอุปกรณ์ นอกจากนี้ภาพที่ถ่ายเก็บไว้บน Camera Roll จะถูกเก็บไว้บนอุปกรณ์อื่นๆด้วย
ข้อดีของการ Backup ผ่าน iCloud คือ การ Sync contacts ข้ามอุปกรณ์ และตารางนัดหมดก็ได้รับการอัพเดตตรงกันด้วย นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติ Find my frinds สามารถที่จะดูได้เลยว่าเพื่อนของคุณอยู่ตรงไหนใกล้คุณบ้าง (แต่เราจะต้องกำหนดให้แสดง latitude ด้วย)
ส่วนไอคอนนี้คือ Parental Control ใช้การค้นหาตำแหน่งระบุสถานที่มาช่วยในการค้นหาตำแหน่งเพื่อน และแชร์ตำแหน่งแบบ temporary ได้ด้วย นอกจากนี้ iCloud บน iOS5 และ lion มีขนาดพื้นที่ 5GB ฟรี
พบกัน 12 ตุลาคม แต่สำหรับ iTune Match นั้นออก ปลายเดือน ตุลาคม (US) ราคา $24.99 ต่อปี
 

New iPod Nano ดูสเปค
ออกแบบเพื่อตอบสนองการเป็นเครื่องเล่นพกพาขนาดเล็กที่หลายๆคนนำไปติดสายนาฬิกาข้อมือ พร้อมหน้าจอนาฬิกา 16 แบบ และเพิ่มตัววัดระยะทางการเดิน - วิ่ง การออกกำลังกายฟิตเนส Nike+ หน้าจอรองรับ Multi-Touch ไอคอนขนาดใหญ่
สนนราคา 8GB $129 16GB $149
New iPod Touch ดูสเปค
รองรับ iOS5 และใช้งาน iMessage บน Wi-Fi ได้ฟรี และยังรองรับ iCloud อีกด้วย ราคา 8GB $199 32GB $299 64GB $399 จะเห็นได้ว่าไม่มี 16GB จำหน่าย 12 ตุลาคม


iPhone4S ดูเสปค
แน่นอนแล้วว่าไม่ใช่ iPhone5 อย่างที่เป็นข่าวลือกันมาก่อนหน้านี้ แต่เป็นรุ่นที่ 5 ของ Apple โดย iPhone4S ใช้ chip A5 ประมวลผลกราฟิกแบบ Dual-Core ซีพียูแรงขึ้น 2 เท่า กราฟิกดีขึ้น 7 เท่า กล้อง 8 ล้านพิกเซล ความละเอียด 3264x2448 pixels
ถ่ายวีดีโอ Full HD 1080p พร้อมคุณสมบัติการถ่ายภาพ Hybrid IR Filter สีสมจริงมากขึ้น และเพิ่มแสง Backside illumination 73% ปรับปรุง Image Signal Processor (ISP) มี Face Detection และปรับ White Balance ดีขึ้น 26%
เวลาเปิดกล้อง 1.1 วินาที เร็วมาก และมีช่วงเวลาหน่วงเพื่อถ่ายช็อตต่อไปได้ในระยะเวลา 0.5 วินาที นั่นคือถ่ายภาพถัดไปได้ในทันที
สิ่งที่หลายๆคนถามหาคือแบตอึดขึ้น สนทนาบนเครือข่าย 3G ได้ 8 ชั่วโมง เล่นเว็บ 6 ชั่วโมงบน 3G 9 ชั่วโมงบน Wi-Fi เล่นวีดีโอ 10 ชั่วโมง ฟังเพลง 40 ชั่วโมง
และสำหรับปัญหาสัญญาณจากเสารับสัญญาณ ทาง Apple ก็ได้ปรับเสาอากาศใหม่ สามารถปรับการทำงานโดยอัตโนมัติในการถ่ายโอนข้อมูลและรับข้อมูลได้ด้วยเสาอากาศ 2 เสา ส่วนการรองรับ 3G นั้นเป็นระบบ HSDPA 14.4Mbps
และเป็นเครื่อง GSM+CDMA ไม่ได้แยกระบบขายแบบ iPhone4 แล้ว
ใครที่ชอบเล่นเกม จะต่อออกจอใหญ่ผ่าน AirPlay ก็สบาย ทั้งแบบต่อสายและไร้สาย
และที่ฮือฮาที่สุดคือ Siri ระบบ voice recognition ที่จะเป็นผู้ช่วยโต้ตอบกับคุณเหมือนเป็นเลขาส่วนตัว และสามารถจดจำเสียงพูดแล้วสร้างข้อความเอาไว้ ฉลาดมากๆ นอกจากนี้ยังค้น wikipedia และยังมี dictation มีไมโครโฟนเหนือ space bar พิมพ์ตามคำพูดของเรา
ตอนนี้ใช้ได้กับเสียงภาษาอังกฤษ (US, UK, และ Australia) รวมทั้งฝรั่งเศสและเยอรมัน ตอนนี้ยังเป็นเบต้าอยู่ ต่อไปคงจะมีอีกหลายภาษา ส่วนภาษาไทยก็รอกันต่อไป
ราคาวางจำหน่าย 16GB: $199, 32GB $299, 64GB $399 ช่วงแรกที่จำหน่าย ติดสัญญา 2 ปี ส่วน iPhone 3GS 8GB $49 (ถ้าติดสัญญา ฟรีตามเงื่อนไข) iPhone 4 8GB $99 16GB $199
pre-order วันที่ 7 ตุลาคม จำหน่ายวันที่ 14 ตุลาคม เฉพาะใน UK, US, Canada, Australia, France, Germany, Japan ซึ่งใน US จะเป็น Verizon, AT&T, Sprint ส่วนอีก 22 ประเทศ จำหน่าย 28 ตุลาคม
อีก 70 ประเทศรอ ธันวาคม (แน่นอนว่าถึงตอนนั้นก็ยังไม่มีประเทศไทย) ตามรายชื่อประเทศต่อไปนี้


ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม Let's Talk iPhone ครับ

@yokekung