2011 ปีแห่ง Personal Cloud Storage ของผม

Skydrive
ภาพจาก http://www.readwriteweb.com/archives/skydrive_personal_cloud.php

ปี 2011 ที่กำลังจะผ่านพ้นไปนี้ ปีนี้ หลายๆคนหันมาใช้บริการ Cloud Storage มากขึ้น จากปัจจัยจาก Hi-Speed Internet และ 3G ของ AIS, dtac, TruemoveH, My, TOT ที่ขยับตัวในปีนี้ ทำให้การเก็บข้อมูลลงใน Internet Memory ของอุปกรณ์เป็น Primary Storage นั้นน้อยลง เพราะเก็บแล้วพื้นที่้เต็ม ก็เลยต้อง Backup ลงคอมพิวเตอร์ แต่จะดีแค่ไหน หากบริการ Clound เชื่อมโยงกับทุกอุปกรณ์ อย่า่งบริการ iCloud ของ Apple ที่เชื่อมโยงการ Sync ข้อมูลทุกๆอย่าง รวมไปถึงบริการ Cloud อย่าง Dropbox และ Box.net ที่ปรับตัว

จริงๆแล้ว Cloud ไม่ได้เพิ่งเกิดนะครับ จำได้ว่าเมื่อก่อนเคยใช้ XDrive (ปิดบริการไปแล้ว), iDrive [5GB] ในช่วงที่ฮาร์ดดิสก์มีราคาแพง มีขนาดไม่มาก ทางเลือกตอนนั้นคือ write CD และตอนนั้นเรายังใช้ Harddisk 80GB, 120GB, 160GB กันอยู่เลย ตอนนั้น 250GB, 320GB ยังแพงอยู่ และเน็ตเมืองไทยไม่แรง การอัพโหลดยังใช้ 56K อยู่

สำหรับ Cloud ในปัจจุบันนั้น แม้่ว่าเน็ตจะมีประสิทธิภาพดีขึ้น แต่ตอนแรกๆ นั้น หลายๆคนไม่กล้าใช้บริการ Cloud ด้วยเหตุผลที่ว่า กลัวข้อมูลรั่วไหล แต่สำหรับผม ปีนี้เป็นปีที่แทบไม่ได้ใช้ USB Flash Drive ไม่ได้ซื้อ External HDD ใหม่เหมือนอย่างปีก่อนๆ เหตุผลที่เปลี่ยนมาใช้ Cloud ก็เพราะ Windows กับ Virus นั่นเอง ใช่ครับ จะ้เก็บข้อมูลบน USB Flash Drive, SD Card, External HDD ก็ได้ แต่เมื่อนำไปเสียบเครื่องอื่น ต้องปวดหัวกับการหาอุปกรณ์ไม่เจอบน Windows ครั้นพบอุปกรณ์ต้องมาสแกนไวรัส ติดไวรัสกันอีกเรื่องยาว

วิธีแก้ของผมคือ การใช้ Cloud มาช่วย ใช่ครับ ปีนี้เป็นปีที่ผมเริ่มใช้ Cloud อย่างเป็นเรื่องเป็นราว อย่างงานเอกสาร งานนำเสนอต่างๆ ผมก็โยนพวก Presentation เข้ากับ Dropbox แล้วนำไปเปิดเ้ครื่องไหนก็ได้ ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต อย่างตอนที่นำเครื่องไปต่อโปรเจคเตอร์ในการบรรยายไม่ได้ ก็ใช้วิธี สำรองข้อมูลไว้อีกชุดบน Cloud แล้วใช้เครื่องที่ต่อโปรเจคเตอร์ได้ นำข้อมูลนำเสนอออกมาใช้งาน นี่คือทางแก้หรือ อาจจะไม่ใ่ช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง แต่อย่างน้อย ก็ได้รู้ว่า ไม่ต้องห่วงกังวลกับไวรัสบน USB Flash Drive ไม่ต้องกลัวเสียบอุปกรณ์แล้วหาไดร์เวอร์ไม่เจอ เพราะบริการ Cloud สามารถเข้าถึงได้จากทุกๆแพล็ตฟอร์ม

และสำหรับใครที่ใช้งาน SSD ซึ่งมีขนาดพื้นที่ค่อนข้างจำกัด แน่นอนว่าบริการ Cloud มาตอบโจทย์ได้ดีกว่า USB Flash Drive หรือ External HDD เสียอีก เพราะสะดวกกว่ามากและไม่ต้องกังวลกับ Flash Drive ด้วย และวิธีที่ง่ายที่สุดหากไม่ได้เปิดใช้บริการ Cloud Storage นั่นก็คือ ส่งอีเมล์หาอีเมล์อีกอันของเรา แล้วเวลาจะใช้งานก็ล็อกอินเข้าไปดาวน์โหลดไฟล์ออกมาใช้ แบบนี้ก็เรียกว่าเป็น Personal Cloud ได้เหมือนกันเพราะตอนนี้ Gmail ก็ให้พื้นที่มหาศาล Hotmail ก็มี SkyDrive อยู่แล้ว แต่ด้วยความง่าย หลายๆคนเลยใช้ Dropbox เพราะอะไร เพราะมัน Sync ข้ามได้ทุก Platform นั่นเองทั้งมือถือ คอม แท็ปเล็ต ครบทุก OS เลย

Personal Cloud ที่ใกล้ตัวที่สุด อยู่ในบริการ Windows Live ของเพื่อนๆนั่นแหล่ะ นั่นคือบริการ SkyDrive ให้พื้นที่ฟรี 25GB อันนี้ยอมรับว่าผมก็แทบไม่ได้ใช้งานเลย แต่ก็จะเริ่มใช้งานให้คล่องแล้ว

สำหรับ Google เองก็มี Google Cloud Storage อย่าง Google Docs อยู่แล้ว ส่วนใครที่อยากได้ Google Cloud Stoage บางแพลนต้องเสียเงินเพิ่ม

บริการ Yahoo! เองก็มีบริการให้ส่งไฟล์แนบขนาดใหญ่ผ่านแอพพลิเคชั่น Attached Large Files สูงสุด 2GB และยังสามารถแนบไฟล์ครั้งละ 100MB ได้แบบการส่งอีเมล์

คุ้นๆไหมครับ มันคือบริการของ YouSendit นั่นเอง แล้วเราก็จะเห็น Option ให้เลือกแบบ Premium ส่งไฟล์ได้ 2GB ตอนนี้เน็ตบ้านเราทั้ง 3G, Hi-Speed ส่งไฟล์ขนาด 2GB ไ่ม่ได้ยากลำบากอะไรแล้ว สบายๆด้วยซ้ำ แบบนี้เราก็มี Cloud Storage ใช้เยอะแล้ว

ของฟรี ใช้อะไรดี ตอนนี้ Dropbox ยอดฮิต หลายๆคน รวมทั้งผมเต็มไปแล้ว [2.5GB] ก็ใช้วิํีธีในการ Invite เพื่อนๆมาสมัครเพื่อเพิ่มพื้นที่ได้ ส่วน iCloud ให้ฟรี 5GB มากกว่านั้นต้องซื้อ หลายๆคนคงอยากจะใช้ของฟรีใช่ไหมครับ อย่างเว็บ ReadWriteWeb ได้แนะนำว่า ถ้าคุณใช้ทั้ง PC, Tablet, SmartPhone เป็น Windows OS ทั้งหมด ก็แนะนำให้ใช้ SkyDrive สะดวกกว่า และใช้การ Sync ผ่าน Windows Live Mesh ได้

แต่หลายๆคนสะดวกใช้ Dropbox กันใช่ไหมล่ะ แต่เมื่อ Dropbox เต็ม เราจะใช้บริการไหนดี บล็อกนี้จุดประกายจาก @misteraum ที่พูดพร้อมกันว่า Dropbox เต็มแล้ว มีสองทางเลือกคือ ให้เพื่อนมาสมัครผ่าน Invite เรา และสมัครด้วยอีเมล์อื่นได้อีก 2.5GB หรือ invite เมล์ตัวเองซะเ้ลย อีกทางนึงคือ ทางเลือกของ Cloud ค่ายอื่นๆ ใครที่กำลังคิดว่าจะใช้ Cloud ของค่ายไหนดี ก็ลองสมัครแล้วลองใช้ดู แล้วพอรู้ว่าเราใช้พื้นที่เท่าไหรก็ลองเทียบดู (อ่านบทความเพิ่มเติมจาก ReadWriteWeb)

และในโอกาสนี้ ผมขอแนะนำ Cloud ที่น่าสนใจและน่าเชื่อถือให้ลองใช้กันดูครับ

Box.net [ตอนนี้เป็น Box.com แล้ว] ให้พื้นที่ฟรี 5GB แต่ถ้าใครใช้ LG, Sony Ericsson จะได้พื้นที่ 50GB รีบสมัครก่อน 31 มีนาคมปีหน้า หลังจากก่อนหน้านี้ผู้ใช้ HTC ได้พื้นที่จาก Dropbox 5GB (ปกติให้ 2.5GB)

Tonido Cloud ค่ายนี้ให้บริการ Cloud โดยผูกหลายผลิตภัณฑ์ของตนเอง มีบริการที่เชื่อมโยงกับ TonidoPlug เป็น NAS ต้องซื้อเพิ่ม หรือไม่ก็ใช้งาน Tonido WebSharePro, Tonido WorkSpace, Tonido Jukebox และมี Tonido Thots เป็น Personal Blog น่าสนใจทีเดียว ลองศึกษาดูครับ

iOmega Personal Cloud เป็นบริการที่เชื่อมโยงกับอุปกรณ์ iOmega และจัดการข้อมูลได้เยอะ ลองเล่นดูครับ

PogoPlug Cloud ชื่อน่ารัก อินเทอร์เฟซสวย ให้พื้นที่ฟรี 5GB แต่ก็มีขายอุปกรณ์เก็บข้อมูลด้วย

ADrive ให้พื้นที่ทั้ง Online Storage และ Cloud 50GB ฟรี และซื้อเพิ่มแพลนต่างๆได้

Ubuntu One เป็น Personal Cloud ฟรี 5GB

บทความน่าสนใจเพิ่มเติม

บริการ Cloud อยากรู้เรื่อง SkyDrive