“คนขับแท็กซี่” กับฝันร้ายของผู้ใช้แท็กซี่ไทย ผ่านแอพเรียกแท็กซี่

สำหรับผู้ที่โดยสารรถแท็กซี่ น่าจะรำคาญแท็กซี่ที่ปฏิเสธผู้โดยสาร ส่งรถ รถติด แก็สหมด ไม่ไป พ่องงงงงงงงงงงงงงง

taxi-app-bkk

หลายปีก่อนมีบริการ Call Center โทรเรียกแท็กซี่ ตอนนั้นผมอยู่บ้านในซอยลึกก็สะดวกดี คิดค่าบริการเพิ่ม 25 บาท ก็พอๆกับค่านั่งวินออกไปเรียกรถ  ก็คุ้มนะ แต่โทรหา Call Center ติดยาก หรือโทรติด แต่ไม่มีแท็กซี่กดรับ บ่อยครั้งที่ต้องนั่งวินออกไปปากซอย เพื่อเรียกแท็กซี่มารับคนในบ้านอีกรอบ หลังๆมีบริการ แอพเรียกแท็กซี่ ไม่ว่าจะเป็น GrabTaxi, Uber, EasyTaxi ให้บริการผ่านแอพ เราสามารถเรียกแท็กซี่ผ่านแอพได้ รถแท็กซี่คันไหนที่อยู่ใกล้เราก็มารับ

ก่อนอื่น ขอออกตัวก่อนว่า ผมไม่ได้โปรโมทให้แอพเรียกแท็กซีค่ายไหนเลย ทุกครั้งที่ใช้บริการและโพสต์บน Social Media คือใช้บริการเองทั้งหมด ดังนั้นผมจึงไม่มี bais กับค่ายไหน และเท่าที่ผมใช้บริการครบทุกค่าย ผมบอกได้เลยว่า ค่ายผู้ให้บริการแอพเรียกแท็กซี่ นั้นดีมาก บริการดี แต่ที่แย่คือ “คนขับ” ครับ เป็นยังไงเดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง (อ่าน) กัน

ที่ผมบอกว่า ฝันร้ายของผู้ใช้แท็กซี่ไทย ก็เพราะว่า คนไทย หงุดหงิด รำคาญ กับแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร ก็คิดว่า เฮ้ย มีแอพเรียกแท็กซี่ เจ๋งหว่ะ ไม่ต้องง้อคนขับขี้ปฏิเสธแล้ว แอพนี่เจ๋ง สุดยอด ผมยอมรับว่าตอนแรกก็ชอบ ดีใจ แล้วก็ช่วยโปรโมทให้ทุกค่ายฟรีๆ โดยไม่ได้รับการร้องขอจากค่ายไหนเลย แต่พอได้ใช้งานจริงๆ กลับไม่ใช่อย่างที่ฝันครับ มันคือฝันร้าย แถมฝันร้ายหนักกว่าเดิม เพราะสุดท้าย เราเรียกรถแท็กซี่ ผ่านแอพเรียกแท็กซี่ แต่คนขับนั่นแหล่ะ ที่กลายเป็นเลือกกดรับผู้โดยสารในเส้นทางที่ตัวเองจะไป หรือแม้กระทั่งโกงค่าโดยสารผู้โดยสาร ทั้งๆที่ผู้ให้บริการแอพเรียกแท็กซี่ ไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลย (แต่ก็ต้องร้องเรียนล่ะนะ)

ฝันร้ายก็คือ “คนขับ” เนี่ยแหล่ะครับ ส่วนครั้งแรกไปกับ GrabTaxi ก็ไม่มีปัญหาอะไร รอบนี้ครั้งที่ 2 พอดีมีโปร Lady เลยใช้ชื่อภรรยาเรียกรถ (นั่งไปด้วยกัน)

ฝันร้ายที่ 1 คนขับ ดันคิดเหมา [คิดเหมาเอง ไม่ใช่ระบบของแอพเรียกแท็กซี่คิดเหมา] ผมร้องเรียน Call Center GrabTaxi สุดท้ายที่ได้คือ Voucher 100 บาท ให้ใช้ขึ้นแท็กซี่ ส่วนคนขับถูกตักเตือน ถูกลงโทษ

เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อน เราเรียกรถตี 3 ครึ่ง ของวันที่ 11 มีนาคม จะไปสนามบิน แต่เรียกล่วงหน้าวันที่ 9 ผ่านแอพ แต่แอพไม่ยอมให้เรียก น่าจะเป็นบั๊ก ก็เลยโทรหา Call Center บริการดีครับ แต่สุดท้าย เจ้าหน้าที่กรอกวันผิด (ในภาพจะเห็นว่าเป็นวันที่ 10 แต่เราเดินทางวันที่ 11) ก็โทรไปอีกรอบ เจ้าหน้าที่ก็ขอโทษและจัดคิวใส่วันที่ให้ถูกต้อง แล้วจากนั้น คนขับโทรมาบอกว่า ตอนตี 2 วันที่ 11 ให้โทรบอกเขาด้วยนะ สรุปว่าต้องตื่นมาตอน ตี 2 เพื่อปลุกคนขับ??

grab-taxi

ตัดมาวันเดินทาง พอดีคืนนั้น เราไม่ได้นอน มัวแต่จัดกระเป๋า ตอนตี 3.30 เขาโทรมาหาเรา บอกว่ารอนานแล้ว เค้ามาตั้งแต่ตี 3 นะ (ผมระบุเวลาเรียกตีรถไว้ 3 ครึ่งไม่ใช่รึ)  รถที่มารับเป็น Innova รถคันใหญ่ แต่ในแอพเราไม่ได้ระบุ ว่าจะเอารถใหญ่ เราเอารถธรรมดา พอขึ้นรถเขาบอกว่า “คิดเหมานะ 700 บาท ไม่ขึ้นทางด่วน”

ตอนนั้นเรามีโปร Lady ลด 100 บาท ผมก็ท้วง เขาก็บอกว่า งั้นเหลือ 600 บาท (ไม่ขึ้นทางด่วน) เหตุการณ์นี้ผมร้องเรียนกับ GrabTaxi ตอนแรกคิดว่าเป็นที่แอพ สรุปคนขับโกง คิดค่าโดยสารแบบเหมา GrabTaxi ไม่ได้มีนโยบายคิดเหมากับผู้โดยสาร แต่ยังไง GrabTaxi ก็ต้องสอบสวนและลงโทษคนขับตามระเบียบ

ผมได้ส่งอีเมล์ร้องเรียน (ยังเก็บไว้อยู่ ไม่ลบ แม้จะร้องเรียนไปแล้ว) ได้คำขอโทษเป็น Voucher 100 บาท ซึ่งจริงๆผมไม่ต้องการ สิ่งที่ต้องการคือลงโทษ “คนขับ” หลังจากนั้นผมใช้บริการด้วย Voucher นี้ แล้วไม่ได้ใช้บริการ GrabTaxi อีกเลย

แต่ระยะหลังๆนี้ น่าจะมีการร้องเรียนคนขับเยอะขึ้น Easy Taxi, Grab ก็ส่งอีเมล์ให้ทำแบบสอบถาม Easy Taxi โทรมาถามเลยว่ารู้สึกยังไง ก็ร่ายยาวไป ตามข้างล่าง

easy-taxi

อีกครั้งกับบริการ EasyTaxi ที่ไปรับผู้โดยสารในงาน #NuiShow ที่ศูนย์วัฒนธรรมฯ บริการของเจ้าหน้าที่ของ Easy Taxi ดีครับ แต่วันนั้น ดึกแล้ว ผมจะรีบกลับบ้าน ก็เลยไม่ได้ลงทะเบียนในแอพไว้ (ความผิดผมส่วนหนึ่ง แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า กดเรียกไปก่อน ค่อยใส่ข้อมูลลงทะเบียน) ผมกดเรียกรถไปแล้ว คนขับแท็กซี่กดรับผมแล้ว ในแง่ระบบของ Easy Taxi ผมชอบนะ ดีเลย เมื่อคนขับกดรับผม ผมก็แจ้งทะเบียนให้เจ้าหน้าที่ Easy Taxi หน้างาน เขาก็ติดตามรถให้ ว่าทำไมไม่มาสักที สรุปว่าสุดท้าย คนขับหาเราไม่เจอ ติดต่อเราไม่ได้ เพราะเราไม่ได้ลงทะเบียนในแอพไว้ แต่ในงานนั้น มีเจ้าหน้าที่ Easy Taxi หน้างาน ซึ่งถ้าคนขับ ซื่อตรงจริง  ก็สอบถามเจ้าหน้าที่ของ Easy Taxi ได้ สรุป “คนขับ” รับผู้โดยสารคนอื่นไปแล้ว (อันนี้ผิดกฎของ Easy Taxi นะครับ กดรับผู้โดยสารแล้วไปรับคนอื่นเนี่ย อย่างน้อยติดต่อไม่ได้น่าจะแจ้งเจ้าหน้าที่ Easy Taxi นะว่าติดต่อผู้โดยสารไม่ได้)

มหกรรม “คนขับ” โกง ผู้ให้บริการแอพเรียกแท็กซี่

คืนนั้น เป็นโปรโมชั่น ลด 150 บาท สำหรับคนไปงาน #NuiShow โปรยหัวโปรโมชั่นไว้ว่า “เรียกแท็กซี่ไปงานผ่านแอพฯ รับส่วนลด 150฿” สรุปว่า ผมเห็นกับตา เจ้าหน้าที่หน้างานตะโกนเรียกเพื่อนร่วมงานว่า “จ่ายเงินด้วย” คือคนขับทุกคนจะได้รับ “เงินสด 150 บาท” จากเจ้าหน้าที่ Easy Taxi ไม่ว่าระยะทางใกล้ – ไกล ก็ได้รับส่วนลดทุกคัน (ได้เงินสด 150 บาท ก่อนรับผู้โดยสาร) หลังจากผมพลาดแท็กซี่คันแรกไป ผมก็ติดรถคันที่เพื่อนเรียก ออกไปด้วย ลองคิดตามนะครับ ระยะทางจากศูนย์วัฒนธรรม – พระราม 9 หน้าอาคารบำนาญ เพ็ญชาติ มิเตอร์วิ่งไม่ถึง 60 บาท แต่คนขับได้ไป 150 บาทแล้ว แถมตอนขึ้นรถ คนขับบอกว่า เขาจอดอยู่นานแล้ว แต่เลือกรับคนที่ไปใกล้ๆ (อ้าว พี่รับเงินไป 150 บาทแล้วนี่) หลังจากเพื่อนผมลงไปแล้วหน้าอาคารบำนาญเพ็ญชาติ ผมก็บอกคนขับว่าผมจะไป “วุฒากาศ 43” คนขับปฏิเสธไม่ไป ผมถามว่าค่าโดยสารเท่าไหร เขาบอกว่า ฟรีครับ ผมถึงบางอ้อทันที อ้าว คนขับรับเงินไป 150 บาทแล้วนี่ แถมเลือกสถานที่ส่งผู้โดยสารอีก มิเตอร์ขึ้นจริงไม่ถึง 60 บาท ข้อสรุปของผมคือ คนขับโกง Easy Taxi ครับ

จะเห็นได้ว่าจากตัวอย่างที่ผมเล่ามา ตัวผู้ให้บริการ แอพเรียกแท็กซี่ บริการดี มีผิดพลาดบ้าง แต่งานก็ตรง เป๊ะ แต่สิ่งที่เป็นฝันร้ายคือ “คนขับ” ทั้งคิดเงินเหมา ไม่ขึ้นทางด่วน เลือกรับผู้โดยสาร เลือกสถานที่ส่งผู้โดยสาร

uber-taxi-003

มาต่อกันที่ แท็กซี่หรู Uber ที่ผมรีวิวไว้แล้ว แท็กซี่หรูนี่ดีมาก ผมแนะนำให้ คุยกับคนขับครับ ผมประทับใจตรงที่ ผมอยู่วุฒากาศ (ตลาดพลู) จะไปตลาดน้ำคลองลัดมะยม โทรไปหาคนขับ คนขับบอกว่าอยู่สนามหลวง รอได้ไหม เอ่อ แบบนี้แฟร์ดีครับ ผมก็ไม่ซีเรียส เรื่อยๆ เดินไป 7-11 ไปรอแท็กซี่ปากซอยชิลๆ (ซอยผมแคบ ไม่ต้องให้เขาเข้ามา ผมเดินไปรอหน้า 7-11 ปากซอยได้) อันนี้แฟร์กันดี คุยกันเรียบร้อย เป็นชั่วโมงก็มารับ ในแอพก็ดูได้ว่ารถถึงไหนแล้ว ระบบ Uber ดีครับ แต่สิ่งที่ผมคิดว่าไม่ควรก็คือ คนขับ มอบนามบัตรของตัวเองให้ บอกว่า ติดต่อกับผมโดยตรงได้นะครับ ไม่ต้องผ่านแอพก็ได้ (ผมเคยได้ยินว่า คนขับรถ Uber มีเงินเดือนจาก Uber อยู่แล้วนี่ เพราะค่าโดยสารหักจากบัตรเครดิตผู้โดยสารโดยตรง ไม่ได้ให้คนขับ) ถ้ามองมุมนึง เอ่อดีเนอะ ไม่ต้องผ่านแอพ ติดต่อคนขับได้เอง มันก็ดีนะ สะดวกดี แต่ถ้ามองอีกมุม มันก็ไม่ถูกต้อง ถ้าบริการแท็กซี่หรู เป็นรถของบริษัท แล้วเอารถมารับงานเอง แบบนี้ถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ผู้ให้บริการแอพ ไม่รับผิดชอบนะครับ แต่ถ้าเป็นรถส่วนตัวของเขาเอง รับงานเอง ก็โอเคนะ

อันนี้ถือว่าไม่ได้เป็นฝันร้าย แต่มองหลายๆมุมก็คิดได้หลายแง่ เพราะ “คนขับ” ก็คือคนทำมาหากิน สุจริต แต่ด้วยเหตุผลใดไม่ทราบ เอาเปรียบ โกงผู้โดยสาร แม้ผู้ให้บริการแอพเรียกแท็กซี่จะไม่เกี่ยวกับพฤติกรรมคนขับ แต่ก็ต้องควบคุม ตักเตือน และจัดการแท็กซี่แย่ๆได้ครับ

แอพเรียกแท็กซี่ คนขับไม่ปฏิเสธการส่งผู้โดยสาร แต่ปฏิเสธจากการเลือกกดรับ มันก็คือปฏิเสธกลายๆนั่นแหล่ะครับ เหมือนในกรณีที่ คนขับบอกว่า จอดรอตรงนี้นานแล้ว แต่เลือกกดรับจุดหมายปลายทางที่ตนเองอยากไป ฮ่วยยยยยย

บทความที่เกี่ยวข้องจากไทยรัฐ ผมว่า Uber คงจะต้องควบคุมและกำชับเรื่องมารยาทคนขับ ให้ดีกว่านี้ แต่เอาเถอะ คนขับ ยังไงก็คน มีเงินเดือน ก็อยากหารายได้พิเศษ แต่สิ่งที่ผู้โดยสารรู้สึกไม่ปลอดภัยคือ ถ้าเกิดอะไรขึ้น ใครจะรับผิดชอบ ในเมื่อเรียกผ่านแอพ ผู้ให้บริการเรียกแท็กซี่ผ่านแอพ รับผิดชอบอยู่แล้ว หรือทำของหาย เราก็ตามทะเบียนรถ คนขับได้

ท้ายที่สุดแล้ว อยากจะฝากคนขับแท็กซี่ว่า การเรียกแท็กซี่ผ่านแอพ ผู้ใช้มีการ Capture หน้าจอไว้ ชื่อคนขับ ทะเบียนรถ วันเวลาที่เรียกรถ โพสต์บน Social Media แม้คุณคิดจะโกงบริษัทให้บริการแอพเรียกแท็กซี่ หรือแม้แต่โกงผู้โดยสาร (ผมจำคำนั้นได้แม่นเลย ตอนไปสนามบิน คนขับถามว่า เดินทางด้วยแท็กซี่ไปสนามบินบ่อยไหมครับ ต่อจากนั้น เขาก็คิดเหมา เสรดดดดดดด) คุณถูก Capture หน้าจอไว้เรียบร้อยแล้วครับ ยังไงฝากบล็อกนี้ ไปยังผู้ให้บริการแอพเรียกแท็กซี่ ทุกแอพด้วยครับ เป็นกำลังใจให้ คุณต้องจัดการคนขับให้ได้ ไม่เช่นนั้น นิ้วมือผู้ใช้ จะไม่เอื้อมไปแตะแอพคุณอีก เพราะเข็ดคนขับเนี่ยแหล่ะครับ