จากคนขี้อาย เปลี่ยนความขลาด เป็นความกล้า

appgang-yokekung-truelife-tv

คนที่ติดตามผมบน Social Network น่าจะเห็นผมตามสื่อต่างๆ ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ Youtube อยู่บ้าง แต่เชื่อไหมว่า ก่อนหน้านี้ ผมเป็นคนขี้อายมาก ตั้งแต่ผมเรียนจบปริญญาตรี ผมก็วางแผนชีวิต ในการเป็นนักแปล นักเขียน คือทำอะไรก็ได้ ที่เราไม่ต้องพูด ไม่ต้องแสดงออก (เพราะขี้อายนั่นแหล่ะ) ผมเลยมาทางการเขียน จนมาเขียนลงนิตยสาร และเขียนบล็อกในปัจจุบัน

ผมมุ่งเอาดีด้านการเขียน เพราะตอนมัธยม ผมขี้อายมาก ผมไม่กล้าแสดงออก แต่ครั้นความขี้อายนี้ ก็ดันทำให้ผมได้เต้นในงานพิธีเปิดกีฬาสีของโรงเรียน

ตอนมัธยมปลาย ผมขี้อายมากกับการพูดหน้าชั้นเรียน (แต่เพื่อนๆมักเลือกโดยเอกฉันท์ ให้ผมออกไปรายงานหน้าชั้นเรียน ถ้าจับกลุ่มบางกลุ่มนะ แต่ถ้าบางกลุ่มจับได้เพื่อนที่พูดหน้าชั้นเก่ง ผมก็รอดตัวไป เป็นคนไปห้องสมุดหาข้อมูล และพิมพ์รายงานแทน)

มีครั้งนึง ผมเรียนวิชาสังคม (ตอนมัธยม) วันนั้นลืมเอาโพยพูดไป แล้วบังเอิญอาจารย์เรียกไปพูดหน้าห้อง ผมพูดปากเปล่าแบบไร้โพย แต่ก็ยังอายนะครับ ไม่กล้าแสดงออกเลยจริงๆให้ตายเหอะ ปากสั่นเลยล่ะ ไม่มั่นใจเลย

แต่ความขี้อายนี้เอง เพื่อนๆกลับเลือกผมเป็นหัวหน้าห้องในตอนเรียนมหาวิทยาลัยด้วยความบังเอิญ (ว่าเรียบร้อยที่สุด) แต่ผมกลับขี้อายที่สุด แต่ต้องกล้าพูดเสียงดัง “นักศึกษา ทำความเคารพ” ทำบ่อยๆ จนชินเอง แต่ก็มีเพื่อนๆช่วยเหลือมาตลอด (ขอบคุณเพื่อนๆ ศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ ราชมงคล คลอง 6 ทุกคนครับ)

ความขี้อายของผม ได้ทำงานเป็นอาสาสมัคร ดูแลแขกต่างประเทศงานลูกเสือโลก ทำให้ผมได้คุยกับชาวต่างชาติ ได้ใช้ภาษา จากที่ขี้อายนั่นแหล่ะ ผมก็เลยกล้าพูด กล้าคุยกับคนทั่วโลก ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน

ดังนั้น พอเรียนจบมหาวิทยาลัย (ปริญญาตรี) ผมก็เลือกที่จะเดินทางในการเป็นนักแปล (ช่วงที่ทำงานแรก ผมเคยรับงานแปลมาก่อน จากนั้นก็เคยเป็นนักแปล Contract อยู่ช่วงนึง) และความฝันของผม คือเป็นนักเขียน อยากทำงานด้านการเขียน เพราะผมพูดไม่เก่ง จริงๆผมเรียนวิชาโทการโรงแรม แต่ผมขี้อาย คงทำงานบริการไม่ถนัด เพราะขี้อายมากๆ

คนขี้อายอย่างผม การที่หวังจะออกหน้าออกตา ไม่เคยคิดอยู่ในหัวมาก่อนเลย ผมกะเป็นนักเขียนเงียบๆ เพราะไม่กล้าแสดงออก และขี้อายที่จะลุกขึนพูดในห้องประชุม เงียบตลอด (แต่หลังๆมันมายังไงไม่รู้ กล้าแฮะ)

แต่หลังจากที่ผมเขียนบทความลงในนิตยสาร และเล่น Pantip ทั้งวันในช่วงปี 2550 ก็มีคนรู้จักมากขึ้น จากนั้นผมก็เล่น Twitter เขียนบล็อก ได้รับเชิญไปออกงานแถลงข่าวต่างๆ ออกอีเว้นท์ ได้ถูกสัมภาษณ์จากผู้จัดงาน ก็ทำให้ผมกล้าที่จะพูดในที่สาธารณะมากขึ้น

appgang-yokekung-2

เมื่อเริ่มเป็นที่รู้จัก ผมได้รับเชิญออกรายการทีวี รายการวิทยุ ขอบคุณ TrueLife TV กับรายการ AppGang ที่ฝึกฝนความอายของผม ให้กลายเป็นคนกล้า

แต่คุณรู้ไหม ว่าการออกทีวีเนี่ย ผมเนี่ยโคตรขี้อายเลย (เพื่อนๆมัธยม มหา’ลัย คงรู้จักผมดี) ตอนออกทีวีครั้งแรก แม้จะเป็นการบันทึกเทปรายการ ไม่ใช่รายการสด แต่ก็ประหม่าสุดๆ ไม่ชินอะไรเลย (รู้สึกจะเป็นเทปแรกของการเปิดรายการ ที่ถ่าย แล้วเทปนั้นดันเสีย ฮาาา รายการอะไรสักอย่าง ถ่ายที่ตึกเนชั่น สรุปเทปนั้นไม่ได้ออกอากาศ)

appgang-tv

สำหรับการออกรายการทีวี และวิทยุนั้น (พูดถึงการออกอากาศสด) จำได้ว่าเทปแรกๆ ของรายการ AppGang ของ TrueLife TV (ก่อนหน้านี้เป็นรายการ G Square Interactive) ประหม่ามากๆ อาย สั่น (รายการนี้ออกอากาศสดทุกวัน ไม่ใช่เทป ในมือผมมีแค่สคริปต์) แต่หลังจากออกรายการในฐานะแขกรับเชิญบ่อยๆเข้า ก็ยิ่งทำให้เราได้ฝึกฝนความกล้าในการแสดงออกมากขึ้น แม้ว่าการหันหน้าสู้กล้อง สู้แสงไฟ จะเป็นสิ่งที่คนขี้อายอย่างผมไม่เคยคิดมาก่อนในชีวิต ว่าจะได้รับโอกาสแบบนี้ เป็นโอกาสที่มากกว่าเคยฝันไว้มากจริงๆ ขอบคุณมากๆครับ

appgang-yokekung4
appgang-tv-keng

ขอบคุณโอกาสดีๆ จากพี่โจ (สมัยนั้นเป็นรายการวิทยุ “สังคมโอเค” วิทยุเนชั่น FM102) กับการแนะนำเว็บไซต์ AppReview ขอบคุณเนชั่น กับการออกรายการทีวีในฐานะคนเล่น Twitter และคุณพ่อ (รายการของคุณจอมขวัญ ทางเนชั่น) แต่มันก็ทำให้ผมได้ฝึกฝน และสลัดความอาย เป็นความกล้า (แต่ใช่ว่าตอนนี้ผมกล้านะครับ ก็ยังขี้อายอยู่ แต่อาศัยความเคยชินและฝึกฝนบ่อยๆ)

i-spring-yokekung

ใครที่เคยดูคลิปรีวิวมือถือของผมช่วงแรกๆ อาจจะสังเกตได้ว่า ผมพูดไม่คล่อง พูดไม่เก่งเลย อ้ำ อึ้งๆ ตลอด แต่ระยะหลังๆนี่ให้พูด อ่านสคริปต์แล้วไปต่อได้ง่ายขึ้น

broandband-yokekung

จากนั้นก็ออกรายการวิทยุ ทีวี ออกอีเว้นท์ก็ถูกสัมภาษณ์ เรื่อยๆ ทั้งที่เป็นคนขีอายเนี่ยแหล่ะ แต่บ่อยๆเข้าเราก็ชินและลืมความอายไปเอง (จริงๆมันไม่ได้ลืมความอายหรอก เคยชินซะมากกว่า)

คุณกล้าไหม ที่จะเผชิญกับจุดอ่อน ผมว่า ไอ้จุดอ่อนนี่มันร้าย ยิ่งไม่ชอบ ก็ยิ่งเจอ แต่มันทำให้เราแกร่งขึ้น กล้าขึ้นนะ ผมเขียนบล็อกนี้ขึ้นหลังจากได้อ่านบทความของคุณดิน พชรปพน พุ่มประพันธ์ หัวข้อ “กล้าเผชิญหน้ากับ “จุดอ่อน” ก็เลยได้แรงบันดาลใจความกล้า กล้าที่จะกำจัดจุดอ่อนของตัเอง คือความอายนั่นเอง ลองเข้าไปอ่านดูครับ แล้วถ้าคุณ มีเป้าหมายจะทำอะไร หรือมีแรงบันดาลใจที่น่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ ลองเข้าไปดูที่ makethedifference.org