โรงพยาบาลเด็กยุคใหม่ ไม่ต้องไปตอนป่วย แต่ไปพบแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อพัฒนาการของลูก
คำว่าโรงพยาบาล อาจจะดูน่ากลัว ดูไม่น่าเข้าไป เพราะไม่มีใครอยากป่วย ความจำในวัยเด็ก เราฝังใจว่า ถ้าป่วยจะต้องไปโรงพยาบาล ค่านิยมปลูกฝังคำว่าโรงพยาบาล เป็นสถานที่สำหรับคนป่วย ซึ่งคนที่ไม่ป่วยก็ไม่อยากเข้าไปเพราะมีโอกาสติดเชื้อได้ ผมอยากจะเขียนบล็อกนี้ เพื่อพลิกมุมมองใหม่ ของการไปโรงพยาบาล ที่มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษาคุณพ่อ คุณแม่ ในการเลี้ยงลูก ไม่ใช่แค่ไปโรงพยาบาลเพราะป่วย
ผมโพสต์รูปนลิน ในงาน Samitivej International Children’s Hospital Open House ที่โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล สาขาศรีนครินทร์ ก็มีเพื่อนๆ comment ว่า เป็นอะไร นี่คือหนึ่งในมุมมองที่เห็นใคร check-in ที่โรงพยาบาลก็สอบถามด้วยความเป็นห่วงว่าป่วย เป็นอะไรหรือเปล่า เพื่อนไม่ได้ผิดหรอกครับ เพราะเราถูกปลูกฝังมาแบบนั้นจริงๆ ว่าป่วย = ไปโรงพยาบาล
ในวัยเด็กของผมนั้น รัก (โรง) พยาบาลมาก ผมเป็นเด็กแฝด 3 แต่เหลือคนเดียว ผมเป็นเด็กที่มีโรคเยอะมาก สร้างความวุ่นวายให้พ่อแม่เยอะทีเดียว (มาแข็งแรงเอาตอนเข้าวัยรุ่นนั่นแหล่ะ) ในวัยเด็กผมใกล้ชิดกับโรงพยาบาลมาก ตอนโตเลยไม่ย่างกรายเหยียบเข้าไปที่โรงพยาบาลเลย สมัยเด็กผมมีปัญหาด้านสายตา มีการผ่ากล้ามเนื้อตา มีการรักษาสายตาสั้น และสายตาเอียง มีการดูแล แต่ก็ไม่ได้มีการแยกเด็กและผู้ใหญ่ เป็นแผนกตา โดยหมอผู้เชี่ยวชาญเรื่องสายตา จักษุ เป็นหลัก สมัยนี้มีหมอโรคตาเด็ก น่าจะมีความเชี่ยวชาญในการรักษา มากกว่าสมัยผม (3x ปี แล้วสิ) ส่วนโรคอื่นๆ ผมก็เป็นทั้งไอ เจ็บคอ เป็นหวัด สารพัดโรคที่หาหมอบ่อยจนหมอจำได้แม่น (และลาเรียนบ่อย)
ปกติแล้ว เวลาคุณพ่อ คุณแม่ ยุคใหม่ พบว่าลูกป่วย หรือไม่แน่ใจเรื่องอาการของลูกในการเลี้ยงดู ก็มักจะหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต แม้ว่าจะมีข้อมูลมากมาย แต่เราก็ไม่รู้ว่าใครพูดถูกหรือเปล่า อาจจะไม่ได้ผิด แต่เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นลูกของเราก็ควรจะได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านจริงๆ
ในบล็อกนี้ อยากจะทำความเข้าใจ ถึงการมี “ผู้เชี่ยวชาญ” เข้ามาช่วยดูแลในการติดตามการเติบโต พัฒนาการของเด็กเฉพาะด้าน ไม่ใช่ว่าป่วยแล้วถึงเข้าโรงพยาบาล แต่คุณหมอ และผู้เชี่ยวชาญ จะเป็นโค้ชให้คุณพ่อ คุณแม่ ในการดูแลพัฒนาการเติบโตของเด็ก ให้เหมาะสมกับสภาพของเด็กแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน เอาล่ะ เมื่อเรามีคุณหมอ มีผู้เชี่ยวชาญเป็นโค้ด เราก็วางใจได้แล้วเนอะ
ผมไปที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล สาขาศรีนครินทร์ ไม่ใช่เพราะลูกป่วย แต่ไปพบคุณหมอ ไปพบผู้เชี่ยวชาญ พูดคุยแลกเปลี่ยนการเลี้ยงลูกกัน แม้ว่าผมและภรรยา ในฐานะคุณพ่อ คุณแม่ ซึ่งมีความรู้เรื่องลูกในระดับนึง ก็ได้ปรึกษาและขอคำแนะนำจากคุณหมอ
เป็นครั้งแรกที่ได้ผมและภรรยา ได้เข้าไปเยี่ยมชมโรงพยาบาลแห่งนี้ ได้พบคุณหมอ พบกับผู้เชี่ยวชาญ พบผู้อำนวยการโรงพยาบาล เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสอบถามเรื่องที่คาใจ และเคยเข้าใจผิดๆในการรักษาและการบำรุงร่างกาย การพัฒนาการของเด็ก ได้ความรู้ดีมากๆ
ทำไมต้องมีโรงพยาบาลเด็ก?
ปกติเวลาที่ลูกเราเจ็บป่วย เรามักจะพาลูกเข้าคลีนิคใกล้บ้าน เพื่อตรวจอาการ ถ้าไม่หนักจริงๆเราก็ไม่เข้าโรงพยาบาล (เห็นไหมว่าโรงพยาบาลเป็นคำขู่เด็กๆไปเสียแล้ว ว่าถ้าป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล เป็นกุศโลบายทำให้เด็กรักษาสุขภาพ ยอมกินยา เพื่อให้หาย ไม่ต้องไปโรงพยาบาล) แต่มุมมองของการดูแลรักษาเด็กเปลี่ยนไปแล้วครับ โรงพยาบาลไม่ใช่สถานที่ของคนเจ็บป่วย แต่เรามาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญต่างหาก โรงพยาบาลจึงไม่ใช่สถานที่สำหรับคนป่วยเพียงอย่างเดียว เพราะการติดตามการเติบโต และการเสริมสร้างพัฒนาการของเด็ก นั้นสำคัญกว่าการรักษา เพราะทำให้เราป้องกันและลดพฤติกรรม ที่อาจเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยของลูกหลานเราได้
ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กโดยเฉพาะ
ไม่ใช่แค่แผนกเด็ก แต่เป็นโรงพยาบาลเด็ก ที่มีแผนกที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน สำหรับเด็กโดยเฉพาะ ปกติตามโรงพยาบาลต่างๆ จะมีแผนกเด็ก เป็นแผนกหนึ่งในโรงพยาบาล แต่โรงพยาลเด็กที่เป็นโรงพยาบาลใหญ่ ยังไม่มี เพราะโรงพยาบาลเด็ก ให้การรักษา ติดตามอาการ ให้การรักษาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ เพราะเด็กไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่ตัวเล็ก จึงต้องการการดูแลเป็นพิเศษ โดยผู้ที่เข้าใจและเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของเด็กจริงๆ
เราจะลบภาพความเลวร้ายของโรงพยาบาลที่ถูกปลูกฝังได้อย่างไร
ผมได้คุยกับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล สอบถามว่า พี่หมี มีทุกวันหรือเปล่า ผมอยากให้โรงพยาบาลมีพี่หมี ที่เด็กๆ อยากจะไปโรงพยาบาลเพราะมีสนามเด็กเล่น มีเพื่อนเล่น มีพี่หมีให้จับมือ ถ่ายรูป พ่อแม่ก็ปรึกษาผุ้เชี่ยวชาญ เด็กๆก็เล่นได้ มีเพื่อนเล่น ได้เจอพี่หมี ผมว่าเด็กๆ น่าจะอยากมาโรงพยาบาลเพราะอยากเจอพี่หมีนะ ส่วนเรื่องการระวังการติดเชื้อ การแยกโซนเด็กป่วยและเด็กไม่ป่วยออกจากกัน เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นสบายใจมากยิ่งขึ้นค่ะ
เด็ก ไม่ใช่ผู้ใหญ่ตัวเล็ก
รู้ไหมว่า เด็กเล็ก เด็กวัยรุ่น ก็จะต้องได้รับการดูแลที่แตกต่างกัน โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล สาขาศรีนครินทร์ มี Teen Center วัยรุ่นก็คือวัยรุ่น ไม่ใช่เด็ก และไม่ใช่ผู้ใหญ่
สารพัดโรคในเด็ก ที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
รู้ไหมว่าเด็กมีภาวะหัวใจรั่วแต่กำเนิดเยอะมาก ผมได้รู้จักกองทุนสมิติเวช เพื่อชีวิตใหม่ ช่วยผู้ป่วยเด็กที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ทั้งผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจและผู้ป่วยเด็กที่ต้องได้รับการรักษาด้วยวิธีการปลูกถ่ายไขกระดูก
มีเด็กที่เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด (Congenital Heart Disease) ในประเทศไทย จะมีประมาณ 8-10 คน ต่อเด็กเกิดใหม่ 1,000 คน ดังนั้นในแต่ละปีจะมีเด็กเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดสูงถึงประมาณ 7,000-8,000 คน ในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งอาจหายได้ด้วยการรักษาทางยา ส่วนอีกครึ่งหนึ่งหรือประมาณ 3,500-4,000 คนนั้น จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัด มิฉะนั้นจะเสียชีวิตก่อนวัยอันควร หรือมีพัฒนาการทางด้านร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ โดยร้อยละ 20 จะเสียชีวิตในขวบปีแรก ในทางกลับกัน การผ่าตัดหัวใจจะเป็นการช่วยให้เด็กๆเหล่านี้ กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดี คล้ายการได้ชีวิตใหม่ จะเห็นได้ว่าโรคของเด็กไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ต้องการการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญและมีความพร้อมในการรักษาจริงๆ
เพื่อเกาะติดสถานการณ์โรคในเด็กอย่างใกล้ชิด การที่มีการจัดตั้งศูนย์เฉพาะด้านต่างๆครบครัน โรงพยาบาลเด็กที่มีความพร้อม ทำให้เด็กได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ไม่ใช่คุณหมอคลีนิคที่รักษาโรคทั่วไป แต่คุณหมอที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน จะวินิจฉัยโรคได้แม่นยำกว่า มีเครื่องไม้เครื่องมือที่พร้อมกว่า ทันสมัยกว่า และทันเหตุการณ์ต่อการรักษามากกว่า
คุณหมอเล่าให้ฟังได้น่าสนใจ มีการเปลี่ยนหัวใจเทียมด้วย ความทันสมัยของโรงพยาบาล มีผลต่อการช่วยเหลือชีวิตของเด็กมาก มีผู้ที่มีความรู้ในการดูแลและรักษาอย่างถูกต้อง อย่างเรื่องหัวใจเนี่ยต้องการผู้เชี่ยวชาญมากๆ พลาดหรือคลาดเคลื่อนไปอาจหมายถึงชีวิตเด็กได้เลยทีเดียว
พัฒนาการของเด็ก นอกจากจะเป็นเรื่องของร่างกายแล้ว ก็ยังมีเรื่องของพัฒนาการเรียนรู้ด้านสมอง ศูนย์พัฒนาการเด็ก จะพัฒนาการเขียนหนังสือ การใช้สมอง ของเด็กละแต่ละคนที่มีปัจจัยไม่เหมือนกัน
ได้ฟังคุณหมอพูดถึงโรคภูมิแพ้ โรคแพ้นมวัว อาหารทางการแพทย์ ใช้โปรตีนจากเนื้อไก่ ทำให้นึกถึงลูกสาวผม ที่แพ้นมวัว ต้องทานนมพิเศษที่สกัดโปรตีนโดยเฉพาะ ผมมองว่ามีหลายๆอย่างที่คุณพ่อ คุณแม่ กังวล ถ้าได้ปรึกษาคุณหมอ ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญก็จะช่วยให้พัฒนาการของลูกเราดีขึ้น
นอกจากนี้ยังมีแอพพลิเคชั่นที่ทางโรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล แนะนำคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ เพื่อติดตามพัฒนาการตั้งครรภ์ การตรวจครรภ์ ติดตามอาการ มีประโยชน์มาก ไปดาวน์โหลดกันได้ครับ โดยค้นจาก AppStore และ Play Store หรือเข้าไปดาวน์โหลดที่ลิ้งค์นี้ http://goo.gl/RQVCjl
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล ที่เชิญเข้าร่วมงาน หวังว่าบล็อกนี้จะจุดประกายให้คุณพ่อ คุณแม่ ปรึกษาคุณหมอ และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อพัฒนาการที่ดีและการรักษาอย่างต่อเนื่องจากแพทย์และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพราะเด็ก ไม่ใช่ผู้ใหญ่ตัวเล็ก จริงๆด้วยครับผมเห็นด้วยสุดๆ และโรงพยาบาล ก็ไม่ใช่สถานที่สำหรับคนป่วย รีบปรึกษาคุณหมอตั้งแต่ยังไม่ป่วย เพื่อลดความเสี่ยง ดีกว่าป่วยแล้วไปหาหมอนะครับ เข้าไปดูรายละเอียด รพ. เด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนลได้ที่
http://www.internationalchildrenshospital.com