(อัพเดต) เล่าประสบการณ์ คุณพ่อ คุณแม่ มือใหม่ กับการซื้อของใช้เด็กอ่อนให้ลูก

อัพเดตบทความ ต้อนรับวันแม่ เชื่อว่าทุกคนที่เป็นคุณพ่อ คุณแม่ มือใหม่ ต่างก็ตื่นเต้น กับการต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัว กับการซื้อของเด็กอ่อน เด็กแรกเกิด สนใจค้นหาข้อมูล และตื่นเต้น ว่าจะต้องซื้ออะไรบ้าง เพื่อต้อนรับลูกของเรา เราเองก็ผ่านประสบการณ์ตรงนี้มา คือซื้อของใช้เด็กอ่อน ซื้อของให้ลูก ตั้งแต่ลูกยังไม่คลอด อันนี้เชื่อว่า คุณพ่อ คุณแม่ มือใหม่ หลายๆคนมีอาการตื่นเต้นแบบนี้เหมือนกัน แต่สิ่งที่ผมจะบอกเล่า มาจากประสบการณ์ตรงของครอบครัวเรา ในการซื้อของเด็กแรกเกิด อันนี้คือคำบอกเล่าส่วนตัวของผมและภรรยานะครับ แต่ละบ้านอาจมีประสบการณ์ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเด็กด้วยครับ

ตอนที่พ่อแม่รู้เพศของเด็กในครรภ์ เรา (พ่อแม่) ก็มักจะเริ่มเตรียมซื้อของให้ลูก ตื่นเต้น เห่อ เตรียมทุกอย่าง จัดห้องไว้ให้ลูก เตรียมของตามสเต็ปส์ของคนที่กำลังจะเป็นพ่อแม่ ด้วยความตื่นเต้น ยิ่งถ้าใครค้นข้อมูลใน Google (สมัยนั้น ปี 2555) ก็มักจะได้อ่านบล็อกนี้ อ่านแล้วเรา (พ่อแม่) คิดแทนลูก ว่าลูก (น่าจะ) อยากจะได้นั่น อยากจะได้นี่ จำเป็นต้องใช้นั่น โน่น นี่ จนมีสินค้าแบบเดียวกันหลายอย่าง เพราะซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ ก็ซื้อใหม่ หรือซื้อมาแล้ว ไม่เหมาะกับลูกเรา (ก็ต้องซื้อใหม่อีก) ดังนั้นบล็อกนี้จึงเป็นการเล่าประสบการณ์ที่ผมและภรรยาเจอมาให้อ่านกันครับ (ถ้านับถึงตอนนี้ เราเป็นพ่อแม่กันมา 3 ปีแล้วครับ) สุดท้าย ของเด็กอ่อนตอนนี้ ไม่ได้ใช้แล้ว เหลือสายจูงเด็ก เป้อุ้มเด็กครับ

เตียงเด็กอ่อน / เปลเด็กอ่อน

จากประสบการณ์ที่ครอบครัวเรา ซื้อของใช้ มาให้ลูกมากมาย เหมือนคุณพ่อ คุณแม่ ทั่วไปนั่นแหล่ะครับ ก็ทำให้เรารู้ว่า เด็กเล็ก เด็กอ่อน ไม่ได้จำเป็นจะต้องใช้อะไรมากมาย (อย่างที่เราคิด) เด็กอาจจะไม่ได้ต้องการสิ่งที่เราแห่ไปซื้อมากองไว้เตรียมต้อนรับลูก อย่างแรกคือ เตียงนอนเด็ก เพราะคิดว่า เด็กเกิดมาก็ต้องมีเตียงนอน เหมือนที่เรานอนบนเตียง เราซื้อเตียงนอนเด็ก ต้อนรับลูกตั้งแต่ยังไม่คลอด กางเตียงไว้รอลูกตั้งแต่วันก่อนคลอด ก่อนไปโรงพยาบาล เพราะคิดว่า พอลูกกลับมาจากโรงพยาบาลก็นอนบนเตียงได้เลย แต่เอาเข้าจริง ลูกไม่ได้ยอมนอนในเตียง เพราะเค้าอยากจะนอนข้างๆพ่อแม่ อยากได้รับความอบอุ่น (ซึ้งเลยครับ ลูกไม่ได้อยากนอนบนเปลเด็ก เตียงเด็ก เขาอยากนอนข้างๆพ่อแม่) ให้เค้านอนคนเดียวในเตียง เค้าเหงา เค้าร้องไห้ ทำให้เตียงนอน ที่เราซื้อมา สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้ ใช้สักเดือนเดียวก็กลายเป็นที่เก็บของเล่น ตุ๊กตา ของฝาก-เยี่ยมเด็กอ่อนไปซะแล้ว

แม้เตียงนอนจะมีมุ้ง เอาไว้กันยุง เพราะพ่อแม่เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก ต้อนรับเด็กแรกเกิด แต่ขอบอก เตียงนอนใช้แค่ 1-2 เดือนก็กลายเป็นที่เก็บหมอน ตุ๊กตา ไปแล้ว T__T

นลินเนี่ยใช้เตียงนอน (เฉพาะช่วงกลางคืน) แค่ไม่กี่เดือน บางคืนเราให้เขานอนบนเตียง เขาก็ร้อง จนเราอุ้มมานอนข้างๆเรา ให้กินนม เขาถึงเงียบ เพราะเด็กก็อยากจะนอนกับพ่อแม่ (ตรงนี้ผมยอมรับว่า ตอนที่เราเป็นพ่อแม่ เราก็เข้าใจความรู้สึกของพ่อแม่เราได้ดีมากๆ) กลางคืนเราก็พาเขามานอนบนเตียง ปูที่นอน เอาผ้าอ้อม ผ้าสาลูวางปูให้นอน ไม่ได้ใช้เตียงเลย อันนี้ให้นอนกลางวันเท่านั้น (ถ้าใครเป็นพ่อแม่มือใหม่ จะรู้เลยว่า แรกๆลูกจะร้องไห้ ตื่นกลางดึกตลอด เพราะเขาหิวนมนั่นเอง) ถ้าจำไม่ผิด คุณหมอบอกว่า เด็กเล็กต้องการนมทุก 2 – 3 ชั่วโมง วันนึงก็ประมาณ 8 มื้อ

บ่อเป่าลม ไอเท็มสารพัดประโยชน์

ครอบครัวเราแนะนำ บ่อเป่าลม แบบที่เติมน้ำ เอาไว้เล่นน้ำนั่นแหล่ะครับ ตามในภาพเลย อันนี้เราค้นพบตอนที่ลูกอายุขวบกว่าแล้ว ซื้อบ่อเป่าลมมา เป่าลม แล้วเอาที่นอนเด็กใส่ลงไป ให้ลูกนอน เขาก็นอนได้สบาย หรือก็หาที่นอน เป็นฟูก รองให้เด็กนอนอีกที คือบ่อเป่าลมจะมีความยืดหยุ่นของตัวมันอยู่แล้ว เด็กเล็กยังคอไม่แข็ง เขายังไม่สามารถพลิกตัวได้เอง ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะตกเตียง อันนี้เราว่าใช้แทนที่นอนเด็กได้ด้วยนะ

บ่อเป่าลมเราเป่าลมได้ 3 ชั้น ก็สูงในระดับนึง ถ้าไม่ซื้อเตียง เราก็ให้เขานอนข้างๆเราได้ แนะนำว่าฟูก ที่นอนเด็กอย่าอ่อนจนเกินไป ควรจะเลือกแบบที่มีความหนาแน่นของฟองน้ำเยอะหน่อย สิ่งที่ต้องระวังมากที่สุดของเด็กแรกเกิดก็คือ การนอนคว่ำบนที่นอนแล้วหายใจไม่ออก เพราะเขายังขยับตัวไม่เก่ง คอยังไม่แข็ง การที่ฟูกมีความนุ่มมากเกินไป ทำให้จมูกลูกจมลงไปบนที่นอนได้ ทำให้หายใจไม่สะดวก อาจขาดอากาศหายใจ จนเสียชีวิตได้ ช่วงนี้ควรจะต้องระวังให้มากๆกับการเลือกหมอน ที่นอน ให้ลูก (ส่วนใหญ่ของเยี่ยมเด็กอ่อนตอนคลอด มักจะมีญาติๆ สักคน ให้ที่นอนเด็กมา เราก็ได้ใช้ ถ้าไม่มีก็ค่อยซื้อ ตอนนี้ซื้อออนไลน์ได้สะดวก)

อีกทางเลือก ถ้าไม่อยากซื้อเตียงเด็ก หรือบ้านไม่มีที่วางเตียงเด็ก แนะนำให้ใช้เต้นท์ ราคาไม่แพง อันนี้จริงๆเราซื้อมาแต่ลองกางดู นอนหลายคืน เราก็นอนกับลูกในเต้นท์ แต่เปิดพัดลมนอกเต้นท์นะ เปิดแอร์ด้วย เต้นท์ จะทำให้เรานอนกับลูก โดยไม่ต้องห่วงว่าจะกลิ้งตกเตียงไหม แต่ควรเป็นเด็กโตสักหน่อย เด็กเล็ก กลัวพ่อแม่จะกลิ้งทับลูกซะงั้น เพราะเต้นท์มันก็แคบอยู่นะ

สินค้า : เตียงนอนเด็ก

อายุการใช้งาน 3-6 เดือน + / – (ตอนโตขึ้นมาหน่อย ขวบ 9 เดือน ลองเอาให้นอน ไม่กี่วันก็คงสภาพแบบภาพข้างบน)

ปัจจุบัน : พับเก็บ / เอาไว้ใส่ของเล่น ตุ๊กตาลูก ตอนที่เขียนบล็อก พับเก็บเรียบร้อยในตู้

ขวดนมเด็ก

ตอนที่ภรรยาใกล้คลอด เราซื้อขวดนมลูกเป็นโหล เตรียมไว้เยอะมาก ก็ตื่นเต้นนี่เนอะ แต่พอคลอดออกมา ลูกเรากินนมแล้วอ้วกทุกวัน ภรรยาก็เลยหาข้อมูล และสอบถามคุณหมอ คุณหมออธิบายว่า เด็กเล็กไม่มีเซ็นเซอร์ว่า กินเท่าไหรถึงจะอิ่ม ไม่รู้ว่าอิ่มคืออะไร ดังนั้นเขาจะดูดนม (จุกขนาด S) ไปเรื่อยๆจนเหนื่อยแล้วก็จะหยุด แต่นลินนี่น่าจะอึดหรือยังไงก็ไม่รู้ คือเขาดูดไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พักแล้วดูดต่อ แต่เขาไม่รู้ว่าอิ่มคืออะไร ก็เลยดูดนมมากจนอ้วก ดังนั้น เราจึงต้องซื้อขวดนมใหม่ พร้อมจุกนมใหม่ (เป็นไงล่ะครับ ซื้อซ้ำซื้อซ้อนเลย ผมถึงแนะนำว่าอย่าเพิ่งซื้อ รอหน่อย แต่อันนี้ขึ้นอยู่กับเด็กแต่ละคนด้วยนะครับ)

สรุปว่าเปลี่ยนทั้งชุด อีกส่วนหนึ่งก็เพราะเขาดูดขวดนม (ที่ปั๊มจากนมแม่ แต่ตอนหลังทานนมสกัดโปรตีน เนื่องจากแพ้นมวัว) สลับกับดูดจากนมแม่ ทำให้แรงดูดของเขาดูดขวดเท่ากับดูดนมแม่จริงๆ ปัญหาที่เจอคือกลืนนมไม่ทัน ทำให้สำลักนม (อ่านบล็อกภรรยาผม) ทางแก้ของเราคือเปลี่ยนจุกนม แต่จุกนมที่มีขายขนาด SS นั้นจะต้องเปลี่ยนขวดนมด้วย เราจึงต้องเปลี่ยนทั้งขวดนม และจุกนมใหม่ แล้วยกขวดนมพร้อมจุกนมทั้งเซ็ตให้คนอื่น หลังจากเปลี่ยนจุกนม ขวดนม ก็อ้วกน้อยลง (อ่านมาถึงตรงนี้ เปลี่ยนทั้งขวด เปลี่ยนทั้งจุกเลย เสียตังหลายรอบแล้วเห็นไหม)

เครื่องปั๊มนม

เครื่องปั๊มนม ไม่อยากแนะนำให้ซื้อก่อนล่วงหน้าเลย จำได้ว่าเครื่องนี้ราคา 3 พันกว่าบาท ซื้อตอนอยู่ โรงพยาบาล (ในช่วงหลังคลอดเลย) หาในเน็ต แล้วโทรสั่ง ให้เขามาส่งที่โรงพยาบาลเลย คิดค่าส่งก็คิดไป จ่ายเงินสด ไม่รอไปรษณีย์

ทำไมถึงไม่แนะนำให้ซื้อก่อน เพราะตอนคลอด คุณหมอจะกระตุ้นน้ำนมมารดา ว่ามีน้ำนมเยอะหรือน้อย บางคนน้ำนมไม่ไหล บางคนน้ำนมเยอะ ที่นี้โรงพยาบาลหลายแห่ง นิยมให้ลูกดูดจากเต้านมคุณแม่ บางโรงพยาบาล จะมีเครื่องปั๊มนมให้เราใช้ มั่นใจได้ครับว่าสะอาด ก็ลองใช้ของโรงพยาบาลไปก่อน ถ้าโอเคก็ซื้อ ทริคผมไม่มีอะไร โรงพยาบาลใช้รุ่นนี้ ยี่ห้อนี้ เราก็จำมาสั่งซื้อเอง

ที่ปั๊มนม บ้านเราใช้แค่ไม่กี่เดือน สาเหตุเพราะต้องงดให้นมแม่ เพราะ ลูกแพ้นมวัว อาการคือ คุณแม่ทานอะไรก็ตาม นมวัว ถั่วลิสง ข่าวได ข่าวขาว น้ำมันที่มีส่วนผสมของถั่ว ส่วนประกอบทุกอย่างที่มีนมวัว แม่กินแล้วให้นมลูก ลูกได้รับสารอาหารจากนมแม่ (โปรตีนจากนมวัว ที่คุณแม่ทานเข้าไป) ทำให้ลูกเกิดอาการแพ้นมวัว ปรึกษาคุณหมอ จึงแนะนำให้เปลี่ยนมาใช้นมที่สกัดโปรตีนแทนนมวัว อยากจะร้องไห้ เพราะซื้อตั้งแต่กระป๋องละ 3xx (ปลายๆ) จริงๆ 4xx (ต้น) แต่หาได้ถูกสุดก็ 3 ปลายๆ จนตอนนี้ กระป๋องละ 5 ร้อย ฮืออออ ล่าสุด ไม่ทานนมพิเศษแล้ว แต่ทานนมเปรี้ยวได้ ไม่ต้องซื้อนมอันนี้แล้ว

สินค้า : เครื่องปั๊มนม

อายุการใช้งาน : 1-2 เดือน เพราะลูกแพ้นมวัว จึงต้องงดให้นมแม่ (เพราะแม่ทานอะไรที่ลูกแพ้ ไม่ได้เลย)

สาเหตุที่เลิกใช้ : ต้องทานนมพิเศษ สกัดโปรตีนจากนมวัว ทำให้ไม่ต้องใช้เครื่องปั๊มนม

รถเข็นเด็ก

โครงการรถ (เข็น) คันแรกของนลิน สรุปว่า 1 ปีกับอีก 1 เดือน ก็มีรถเข็น 3 คันแล้ว ต้องเปลี่ยนตามความเหมาะสมและนิสัยให้เวลานั้น ๆ คันในภาพนี้รถเข็นปรับนอนได้ ทำให้ลูกนอนหลับได้สบาย ไม่อึดอัด รถเข็นดีๆต้องน้ำหนักเบา บางทีเราแบกขึ้นบันไดเลื่อนในห้าง เน้นเบาไว้ก่อน

สีแดงนี่คือรถ(เข็นเด็ก) คันแรก ชอบตรงที่น้ำหนักเบา พกสะดวก แต่ปรับนอนไม่ได้ แนะนำว่า ตอนไปซื้อรถเข็น ให้พาลูกไปด้วย แล้วเค้าลองนั่งว่าชอบไหม ลองเลยครับ เซลล์เขาบริการเต็มที่ ดังนั้น รถเข็นเด็ก จะเป็นโครงการ รถคันแรก ที่มีหลายคันหน่อย บางครั้งเราไปห้าง ไม่ได้เอารถไป ก็นั่งแท็กซี่ เอารถเข็นเบาๆไป ไปเที่ยวก็เอารถเข็นดีๆไป ตามสถานการณ์ แต่สรุปว่า อย่าเพิ่งรีบซื้อเลย หรือถ้ามีรถเข็นของลูก หลาน ญาติ ก็รับต่อมาใช้ หรือลองใช้ดู ถ้าชอบก็ซื้อ

สินค้า : รถเข็นเด็ก

อายุการใช้งาน : คันละ 6 เดือน เรามีหลายคัน อยู่บ้านที่กาฬสินธุ์คันนึง บ้านที่กทม คันนึง

สาเหตุที่เปลี่ยน : เพราะลูกมีหลากหลายกิจกรรม ทำให้เราเลือกรถให้เหมาะกับลูก ก็เหมือนคนมีรถหลายคัน เลือกใช้คันที่เหมาะสมกับวันและเวลานั้นๆ

อ่างอาบน้ำเด็ก

ถ้าใครไปเดินแผนกของใช้เด็ก จะเห็นนวัตกรรมมากมาย อย่างเช่น ถาดรองทำความสะอาดก้นเด็กทารก แต่ของครอบครัวเราใช้สำลีชุบน้ำอุ่น เช็ดทำความสะอาดก้นเด็ก บางคนใช้ทิชชู่เปียก แต่อาจจะแพงสักหน่อย แต่จะบอกว่า อ่างอาบน้ำเด็ก มีก็ดี เพราะตอนสระผม เด็กเล็กเราต้องระวังมาก คอเขาอ่อน เราต้องระวังน้ำเข้าหูเวลาสระผมเขา จริงๆมันคือ กะละมังอาบน้ำ + ที่รองอาบน้ำเด็ก ซึ่งจะมีแผ่นยางให้เราเปิดออกมาสระผมหรือให้ลูกนอนบนแท่นรองอาบน้ำ ถ้าถูสบู่ พื้นลื่น ต้องระวังลูกเลื่อนไหลออกจากแท่นรองอาบน้ำ เขาจะตกใจ ร้องไห้

สรุปคือ จะซื้อหรือไม่ซื้อก็ได้ แต่ซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ (ใช้ไม่กี่เดือน) เราก็เอาไปทำอย่างอื่นหรือยกให้คนอื่นใช้ก็ได้

สินค้า : อ่างอาบน้ำเด็ก

อายุการใช้งาน : 3 – 6 เดือนแรก หลังจากนั้นก็เอาไปใช้อย่างอื่น หรือเอาที่รองออก ให้เขานั่งแช่กะละมังอาบน้ำตอนที่เราอาบน้ำให้เขา

สาเหตุที่เปลี่ยน : ตามพัฒนาการของเด็ก

โต๊ะกินข้าวเด็ก 

ถามว่าจำเป็นไหม เราฝึกให้เขาทานข้าวเอง แต่ต้องเลือกแบบ ถอดออกมาทำความสะอาดได้ง่าย แม้ว่าจะใส่ผ้ากันเปื้อนให้ลูก แต่ก็กินเลอะอยู่ดีตามประสาเด็ก อย่างในภาพ ถอดด้านบนมาล้างได้ เก้าอี้ก็ถอดออกมาล้างได้หลายส่วน ทำความสะอาดดีๆ ไม่งั้นมดขึ้น แต่อันนี้ ใช้จริงๆก็แค่ขวบเดียว พอ 1 ขวบก็เดินได้เอง ขวบครึ่งไม่ได้ใช้แล้ว เรียกว่าเป็นไปตามพัฒนาการของเขา

แต่ต้องระวัง เก้าอี้สูง ระวังเด็กปีนหล่น ตกลงมาหัวแตกได้ แต่นลิน (เราแอบมองห่างๆ) เขาหันหลังแล้วปีนลงมาได้เอง แต่ต้องคอยดูตลอดเวลา โต๊ะกินข้าวเด็กมี 2 แบบคือ แบบนี้เป็นเก้าอี้ทรงสูง ปรับพนักให้น้องนอนได้ หรือเป็นแบบเก้าอี้ทรงสูงปกติ ใช้กินข้าว นั่งดูทีวี ส่วนอีกแบบคือ Walker รถหัดเดิน มีโต๊ะกินข้าว ส่วนรถหัดเดิน จำเป็นหรือเปล่า เคยเขียนไว้แล้วเข้าไปดู Blog นี้

สินค้า : โต๊ะกินข้าวเด็ก

อายุการใช้งาน : ใน 1 ขวบแรก – 1 ขวบครึ่ง พอ 2 ขวบก็เริ่มไม่อยู่กับที่แล้ว

สาเหตุที่เปลี่ยน : มีหลายอัน ทั้งเก้าอี้มีล้อ มีโต๊ะกินข้าว และแบบนั่งกับที่ มีต่อขายาวให้นั่งสูงๆได้ จะได้สูงเท่ากับเวลาพ่อแม่กินข้าว

คอกกั้นเด็ก

ถ้าเราไม่ได้ใช้เตียงนอน นอนบนฟูก หรือที่นอน เราเอาฟูกปู เอาผ้านวมปู แล้วเอาคอกกั้นมาใส่ แบบนี้ไม่ต้องกลัวลูกดิ้น กลิ้ง ตกเตียง เพราะมีผ้าปูที่นอนปู มีคอกกั้นกันเด็กตก เด็กวัยก่อน 1 ขวบ จะคลาน และใช้คอก รั้วกั้น กันตก เป็นราวให้หัดเดินได้ด้วย

รั้วกั้นอันนี้ หลายๆบ้านน่าจะใช้ มันคือท่อ PVC เอามาต่อกัน เป็นท่อน้ำพลาสติก ในภาพจะเห็นว่านลินเกาะราวเพื่อฝึกการทรงตัวเดิน พ่อแม่ก็ก้าวขาข้ามไปข้ามมาเอา ใช้อยู่ไม่กี่เดือน พอเขาเดินได้เอง ก็ไม่ได้ใช้แล้ว สุดท้ายถอดแยกชิ้นออกเก็บไว้

สินค้า : คอกกั้นเด็ก

อายุการใช้งาน : คันละ 6 เดือน เรามีหลายคัน อยู่บ้านที่กาฬสินธุ์คันนึง บ้านที่กทม คันนึง

สาเหตุที่เปลี่ยน : เพราะลูกมีหลากหลายกิจกรรม ทำให้เราเลือกรถให้เหมาะกับลูก ก็เหมือนคนมีรถหลายคัน เลือกใช้คันที่เหมาะสมกับวันและเวลานั้นๆ

รถหัดเดิน (Walker) 

ถามว่า จำเป็นไหม รถหัดเดิน จะได้ใช้งานแค่ระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น เอาจริงๆเด็กจะเริ่มเดินได้ประมาณ 1 ขวบ ดังนั้น รถหัดเดิน จะได้ใช้ประมาณ 3-4 เดือนเท่านั้น เป็นตัวช่วยพยุงตอนเดิน แต่ตอนนลินเดิน เขาพยายามเดินเอง เราพยายามให้เขาเดินเอง พาเดินห้าง เดินจนเก่ง ทรงตัวได้ รถหัดเดินจึงเป็นไอเทมที่มีอายุการใช้งานจริงๆน้อย

สินค้า : รถหัดเดิน

อายุการใช้งาน : 3-4 เดือน ตีง่ายๆ 1-2 เดินแรก คอแข็ง 3 – 4 เดือนแรก หัดพลิกตัว 5-8 เดือนแรก เริ่มคลาน 9 – 12 เดือน เริ่มหัดเดิน

สาเหตุที่เปลี่ยน : ตามพัฒนาการของเด็ก

เป้อุ้มเด็ก

ไอเท็มสำคัญสำหรับคุณพ่อ คุณแม่ มือใหม่ ยอมลงทุนสักนิด ซื้อเป้อุ้มเด็กดีๆ แล้วคุณจะไม่ปวดหลัง นลินหนัก 10 กิโล ผมก็อุ้มไปเที่ยวได้สบายๆ ไม่ปวดหลังด้วย

ไม่ขอโฆษณายี่ห้อนะครับ แต่ราคาระดับ 2 – 3 พันบาท เทียบก็เทียบกับกระเป๋าโน้ตบุ๊กแหล่ะครับ ระดับราคานี้ ซัพพอร์ตหลังเราได้ดี ไม่ปวดหลัง ลงทุนไว้ครับ ใช้ได้หลายปี ชิ้นนี้คือใช้ได้ยาวนานมากๆ

สายจูงเด็ก

สายจูงเด็ก สำคัญมาก เรา 2 คน พกตลอดเวลาพาลูกไปห้าง ไปข้างนอก ในภาพเดินในฮ่องกง เด็กเล็กยังไงก็ไวครับ วิ่งไว เดินไว เผลอแป๊บเดียว อาจเดินไปบนถนน โดนรถชนเอาได้ ยังไงจะต้องมีแบบ Must Have เลยครับสำหรับสายจูงเด็ก อันนี้บางคนอาจจะมีทัศนคติไม่ดีกับสายจูงเด็ก ว่าจูงแล้วเหมือน … เลย ผมพาลูกไปตามห้าง ใช้สายจูงเด็ก คนก็มองกัน หัวเราะกัน แต่เราอย่าไปแคร์ ลูกเรา เราต้องป้องกันและรัดกุม ถ้าลูกวิ่งหายไปหรือเกิดอันตราย วิ่งจับลูกไม่ทัน ยังไงสายจูงเด็ก จำเป็นมากๆ นี่ยังใช้จนลูกเกือบ 3 ขวบแล้ว

ทั้งหมดนี้เป็นการแชร์ประสบการณ์ ที่เป็นพ่อแม่มาเกือบๆ 3 ปี ให้คนที่เป็นพ่อแม่มือใหม่ได้ทราบกัน ไม่ได้ถูก ไม่ได้ผิด เป็นเพียงความเห็นของบ้านเราเท่านั้นครับ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง กระเตงลูกขึ้นเครื่อง