สารภาพก่อนเลยว่า ผมไม่เคยได้จับกล้องดิจิตอลมาสักระยะแล้ว และยังไม่เคยจับกล้องดิจิตอลแบบที่พับจอแล้วถ่ายเซลฟี่เลย ก่อนไปปีนัง ผมจึงไปขออนุญาตยืมกล้องจาก Canon ด้วยข้อเสนอว่า อยากได้กล้องที่ถ่ายเซลฟี่ได้ มีจอพับหันออกด้านหน้าได้ และเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ ทาง Canon ได้ให้ยืม PowerShot G7 X เป็นกล้องคอมแพ็ค ที่มีหน้าจอแบบสัมผัส พลิกจอมาด้านหน้าเพื่อเซลฟี่ได้ รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi กับสมาร์ทโฟน ที่ติดตั้งแอพ เพื่อถ่ายโอนภาพจากกล้องมาไว้บนสมาร์โฟนเพื่ออัพ Social ได้ทันที เอาล่ะ ทริปปีนังรอบนี้ เรามีกล้องเอาไว้บันทึกภาพสวยๆแล้ว ตามมาชมภาพกันเลย
จุดเด่นของ PowerShot G7 X ก็คือวัสดุที่ใช้ทำกล้อง ตัวกล้องเป็นโลหะ ถามว่าหนักไหม เราอาจจะยังไม่ชิน ก็แหม่ จับแต่มือถือมาตั้งนาน การถ่ายภาพในทริปปีนังนี้ ได้เซนเซอร์ CMOS และเลนส์ของ Canon ที่รองรับการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย เซฟลี่ฉากหลังเบลอได้ มีหน้าจอ LCD ทัชสกรีนปรับหมุนได้ 180 องศา
สเปคสั้นๆ PowerShot G7 X
- เซนเซอร์ CMOS ขนาดใหญ่พิเศษ 1 นิ้ว ความละเอียดสูง 20.2 MP.
- ค่ารูรับแสง f/1.8-f/2.8 แบบ 9-blade aperture diaphragm ถ่ายภาพเบลอฉากหลังแบบโบเก้งดงาม
- หน้าจอ LCD ทัชสกรีนแบบ capacitive กว้าง 3” (ความละเอียดหน้าจอ~ 1.04 ล้านจุด) ปรับหมุนได้ 180 องศา
- ซูมออปติคอล 4.2 เท่า ซูมพลัส 8.4 เท่า ช่วงเลนส์ 24-100 มม. (เทียบเท่าเลนส์ 35 มม.)
- มี Wi-Fi และ NFC ในตัว เพิ่มความสะดวกในการแชร์ไฟล์ภาพแบบไร้สาย เชื่อมต่อมือถือผ่านปุ่ม Mobile Device Connect บนตัวกล้องได้
แต่บล็อกตอนนี้ เราจะใช้ภาพเล่าเรื่องแทน เรื่องกล้องจะมีพูดถึงอีกรอบ ที่บอกว่าใช้ภาพเล่าเรื่อง เพราะถ้าพูดเรื่องการถ่ายภาพ ถ้าให้ผมอธิบายการปรับค่ากล้อง ผมไม่ใช่คนถ่ายภาพเป็น และไม่ใช่คนถ่ายภาพเก่ง หรือเชี่ยวชาญที่จะบอกว่ากล้องดี แต่สำหรับผม ภรรยา และลูก การที่มีกล้องดีๆ เอาไว้เก็บบันทึกความประทับใจของการท่องเที่ยวของผมกับภรรยา ในช่วงที่ลูกค้ามีอายุครบ 3 ขวบ ถือเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่ามาก
การถ่ายภาพ เราใช้โหมดการถ่ายภาพแบบออโต้ คือให้กล้องคิดทุกอย่างให้เรา เราเพียง Point & Shoot เท่านั้น ทุกภาพไม่มีการปรับแต่งใดๆ ย่อภาพแล้วใส่ลายน้ำเท่านั้น เหตุผลก็คือ พ่อ แม่ ลูก ตะลุยเดินทั่วปีนัง ถ่ายรูปไว้ตลอดการเดินทาง หลายครั้งต้องอุ้มลูก ลูกร้อน งอแง เราจะมัวเล็งกล้องก็ไม่ได้ เพราะต้องดูแลลูก ดังนั้นถ้ากล้องเก็บบันทึกเสี้ยววินาทีได้ไม่มีพลาด ถือว่าเยี่ยมแล้วล่ะ
เราเดินทางไปหาดใหญ่ด้วยเครื่องบิน แล้วนั่งรถแท็กซี่ จากสนามบิน ไปต่อรถตู้ หาดใหญ่ – Georgetown ปีนัง มื้อแรกของวันคือข้าวขาหมู ร้านอยู่ข้างๆ วินรถตู้ แนะนำให้ทานให้อิ่ม เพราะรถตู้วิ่ง 4 – 5 ชั่วโมง ไม่มีแวะพัก และถ้าหิวก็ต้องทนหิวกันไป แต่เรามีเสบียงขนมติดตัวไว้ตลอดเพราะมีลูกเล็ก
ระหว่างรถวิ่ง เราก็ถ่ายภาพขณะรถวิ่ง ได้ภาพสวยๆมาหลายภาพ ภาพอาจดรอปลงเพราะฟิล์มกระจกรถ
ภาพพวกนี้ สื่อให้เราเห็นว่า ถ้าได้กล้องดีๆ ก็ไม่พลาดวินาทีสำคัญ แม้รถจะวิ่งเร็ว ช็อตไหนที่เราได้บันทึกความประทับใจ เสี้ยววินาทีเราก็ไม่พลาด
เราพักที่โรงแรม Super 8 จากโรงแรม มองเห็นตึก Komtar อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองปีนัง ศูนย์กลางของเมืองนอก เดินไปไหนถ้าหลงก็มองขึ้นฟ้า หาตึก Komtar ปีนัง ภาพนี้เป็นการซูม อีกโรงแรม และตึก Komtar ด้วยกล้อง G7 X จากที่โรงแรม
การเดินทางวันแรก อย่างเหนื่อย เพราะออกจากห้องพัก ตี 3 ถึงสนามบินตี 4 (เราชอบไปสนามบินเผื่อเวลานานมากๆอยู่แล้ว กันเหนียว) นั่งรถตู้ 5 ชั่วโมง ตอนเย็นกะไม่ไปไหน ก็เดินถ่ายรูปใกล้ๆโรงแรม คืนนั้นหลับสลบทั้งบ้าน
โรงแรมเราใกล้กับ 1st Avenue เดินไปอีกหน่อยก็ถึง Komtar แล้ว สะดวกมากๆ
ทริปนี้เนื่องจากพาลูกวัย 3 ขวบมาเที่ยว เราไม่ได้มีเวลาในการเล็งกล้องถ่ายภาพมากนัก บางครั้งลูกร้อง งอแง วิ่งจับลูก ลูกซน โอ้ยย สารพัด คุณพ่อ คุณแม่ ที่มีเด็กวัยนี้จะรู้ดี ดังนั้น แต่ละภาพจึง Point & Shoot เท่านั้น
ภาพนี้ให้ดูการเก็บรายละเอียดสี การแสดงสี ที่เห็นมุมซ้ายนั่นก็ลูกสาว ฮ่าๆ
มาถึงปีนัง ก็ต้องถ่ายภาพกับ Wall-Art เนอะ ฟ้าหม่นทั้งวัน ฝนก็ตกตลอด
สถานที่ที่เราฝากท้องไว้ก็คือ ศูนย์อาหารใน 1s Avenue เนี่ยแหล่ะครับ
แต่ด้วยความที่ ลูกหิว ไอ้เราก็อยากถ่ายรูป ก็ได้แค่กดแชะ จบ (ลูกคงรู้แหล่ะ ว่ากว่าจะได้กินข้าว ต้องถ่ายรูปก่อน 5555)
อันนี้เหมือนแกงส้มแหล่ะ มาเป็นเซ็ตเดียวกันเลย
เดินไป ถ่ายรูปไป อุ้มลูกไป ร้อนไป ได้ภาพสวยๆ วิถีชีวิต นักท่องเที่ยว ผมชอบเมืองนี้นะ
ลืมบอกไปว่า อีกวันฝนไม่ตก ฟ้าใส และร้อนมาก ฮ่าๆ อีกมุมที่เราชอบถ่ายวิถีชีวิตเมืองต่างแดน
อันนี้เรียกว่าอะไรไม่รู้ รู้สึกจะเป็นบริเวณร้านอาหารอะไรสักอย่าง ตอนนั้นปิด ฟ้าสวยดี และร้อนมาก
บอกตามตรงเลยว่า ตอนถ่ายภาพ แดดแรงมาก 3-4 โมงเย็น แดดแรงไม่พอ แสงจ้าซะจนไม่เห็นจอเลย แต่ได้ภาพนี้มา สวยดี
เดินไกล ชักเหนื่อย เหงื่อท่วม กล้องจับภาพเหงื่อไหลได้อารมณ์มากๆ
เจออะไรก็ถ่ายไปเรื่อย
ฟ้ามืดแล้ว แต่ก็ยังเก็บภาพในที่แสงน้อยได้สวย
ตอนเย็นกลับมาทานก๋วยจั๊บ ร้านนี้คนไทยทำ ตรงข้าม 1st Avenue ร้าน Bee Hong ใครไปก็อุดหนุนคนไทยได้นะครับ
ภาพนี้ถ่ายหน้าชัด หลังเบลอได้สวย โดยไม่ต้องให้ฝีมืออะไรเลย (จริงๆคือฝีมือง่อยๆของผม แต่กล้องเขาดี)
มาถึงการถ่าย Selfie กันบ้าง
ยอมรับว่าเป็นครั้งแรกที่ใช้กล้องแบบที่มีหน้าจอพลิกด้านหน้าให้เห็นจอ ทำให้เราสับสน ว่าจะมองจอหรือมองเลนส์ ปกติบนมือถือ เราจะมองจอใช่ไหม ทำให้เราต้องปรับพฤติกรรมมองเลนส์แทนจอ (ฮ่าๆ)
เราได้ภาพฉากหลังของเมืองปีนังเป็นแบล็คกราวน์เบลอๆ
เราถ่ายภาพกันสนุกมาก จอภาพเป็นแบบสัมผัส แตะจอก็ถ่ายภาพเลย หรือยิ้มก็ถ่ายได้
ถ่ายวีดีโอ
กล้องมีระบบกันสั่นตอนถ่ายวีดีโอ ทำให้การแพนภาพ สมูทมาก
ขากลับ นั่งรถตู้ฝั่งซ้าย ได้วิวสวยๆขณะรถตู้วิ่ง บนสะพานปีนัง
แนะนำว่าทั้งขาไปและขากลับ ให้นั่งบนรถตู้ฝั่งซ้าย เพื่อที่จะได้มองวิวบนสะพานปีนัง สะพานที่ยาวที่สุด สวยที่สุด (สะพานปีนัง มีความยาวกว่า 13.5 กม. เชื่อมระหว่าง เกาะปีนัง และ มาเลเซีย) ข้อมูลเพิ่มเติม
ปิดทริปด้วย ภาพตอนเครื่องบินกำลังจะลง กับวิวที่ถ่ายบนเครื่องบิน จริงๆตอนนั้นก็ดึกมากแล้ว ห้าทุ่มกว่าได้ เครื่องดีเลย์ด้วยแหล่ะเพราะสภาพอากาศแย่ ฝนตกตลอด
ทริปนี้ ประทับใจด้วยภาพสวยๆจาก PowerShot G7 X ขอขอบคุณ บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด เอื้อเฟื้ออุปกรณ์ทดสอบในทริปนี้ครับ