หลังจากที่เคยรีวิวหุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot ผ่านมือมาหลายรุ่น และเทียบกับอีกหลายแบรนด์ ยอมรับเลยว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่นของ iRobot เทพมาก ราคาสูงหน่อย แต่จบ (ถ้าริจะซื้อแบรนด์ถูกๆมา เอาแค่พอใช้ได้ แต่สุดท้ายก็ต้องซื้อ iRobot อยู่ดี ถ้าเคยทดลองใช้จะรู้ครับ) เรียกว่าช่วยพ่อบ้านได้เยอะมาก แม่บ้านก็สบายใจ (ไล่ไปล้างจานแทน) วันนี้เรามาทดสอบหุ่นยนต์ถูพื้น ไม่ใช่ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น เป็นรุ่น iRobot Braava® 380t
iRobot ได้แบ่งซีรีส์ของผลิตภัณฑ์ ถ้าเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติ จะใช้ชื่อ Roomba แต่สำหรับหุ่นยนต์ถูพื้นอัตโนมัติ ใช้ชื่อ Braava ตอนที่เขียนบล็อกนี้ ในเว็บไซต์มีรุ่นเดียวคือ iRobot Braava® 380t เป็นหุ่นยนต์ถูพื้นอัตโนมัติ ที่สามารถเปลี่ยนผ้าม็อบถูพื้นแบบเปียก หรือแบบแห้งได้ตามต้องการ
ปกติเรามักจะต้องกวาดบ้าน แล้วต่อด้วยถูบ้าน แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับวัสดุของพื้นที่เราใช้งานด้วย กระเบื้อง เสื่อน้ำมัน ปูนขัด หินอ่อน ต้องใช้วิธีทำความสะอาด และน้ำยาทำความสะอาด ที่แตกต่างกัน ผมมองว่า การถูบ้านปกติสามารถทำได้เอง แต่เรามักจะใช้การกวาดบ้านเองก่อนรอบนึง หรือถ้ามีหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ก็จะใช้ช่วยดูดฝุ่นตามซอก จากนั้นใช้หุ่นยนต์ถูพื้นในการดันฝุ่น ช่วยถูพื้นให้สะอาด แน่นอนว่า หากเราต้องการหุ่นยนต์ถูพื้น นั่นหมายถึงเราต้องการความสะอาดในการดันฝุ่น และถูพื้นที่มากกว่าใช้มือทำเอง
ก่อนหน้านี้ ผมได้ทดสอบหุ่นยนต์ถูพื้นยี่ห้อนึงมาแล้ว ทำให้เข้าใจหลักการของหุ่นยนต์ถูพื้น แต่ความฉลาดของ iRobot มีมากกว่าจริงๆ ตอนทดสอบหุ่นยนต์ถูพื้นตัวนี้ ผมกับภรรยานั่ง (บนเตียง) ลุ้นกันว่า เจ้า iRobot จะชนตู้ ชนเตียง ลากถังขยะไหม ผมขอแนะนำให้ เก็บของให้เป็นระเบียบ ก่อนเปิดใช้งานหุ่นยนต์ดูดฝุ่นและถูพื้น เพราะหุ่นยนต์ ก็คือหุ่นยนต์ ถ้ามีสิ่งของวางไว้ แล้วเซ็นเซอร์มันไม่ตรวจจับว่าเป็นสิ่งของ อาจเกิดความเสียหายได้ เช่น แจกันตั้งพื้น เจอหุ่นยนต์ชนเข้าไปอาจล้มแตกได้ กรณีผมเจอ iRobot ลากถังขยะ ขำก็ขำ ตลกดี ต้องลุกขึ้นไปหยิบถังขยะออกมา ดังนั้น ควรมองรอบๆบริเวณ เพื่อสำรวจก่อนว่า มีสิ่งของที่วางกีดขวางหุ่นยนต์ถูพื้นหรือไม่ ก่อนเริ่มใช้งาน
บนกล่องมีระบุรายการอุปกรณ์ที่ให้มาพร้อมกับตัวเครื่อง ทำให้เราเข้าใจการทำงานง่ายๆ ด้วย GPS มีผ้าไมโครไฟเบอร์ มีแท่นชาร์จไว มีตัวทำความสะอาดให้เปลี่ยน
อุปกรณ์ที่อยู่ภายในกล่อง มีดังนี้
- หุ่นยนต์ถูพื้น iRobot Braava 380t 1 เครื่อง
- อะแดปเตอร์ 1 อัน
- แบตเตอรี่ชนิด NiMH 2,000 mAh 1 ก้อน (ตอนได้รับสินค้ามารีวิว ใส่มาให้แล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าตัวขายจริงติดตั้งยังไง)
- อุปกรณ์นำทาง NortStar® Cube (Chanel 4) 1 เครื่อง (รวมแบตเตอรี่ขนาด C 2 ก้อน) แบตมีมาให้ แต่วางแยกไว้ ต้องใส่เอง
- ผ้าไมโครไฟเบอร์สำหรับถูเปียก 1 ผืน (สีฟ้า)
- ผ้าไมโครไฟเบอร์สำหรับถูแห้ง 1 ผืน (สีขาว)
- อุปกรณ์ติดผ้าทำความสะอาด 1 ชิ้น
- อุปกรณ์ติดผ้าทำความสะอาด (เติมน้ำ) 1 ชิ้น
- แท่นเทอร์โบชาร์จ 1 เครื่อง
- ใบรับประกันเครื่องเฉพาะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 1 ปี* แบตเตอรี่ 6 เดือน*
หมายเหตุ *การรับประกันจะไม่รวมถึงความเสียหายหรือปัญหาที่เกิดเนื่องจากการใช้สินค้าหรือเครื่องมืออื่นๆที่ไม่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจากบริษัท iRobot Corporation
ขนาดของผลิตภัณฑ์
ขนาดของกล่อง – 38 x 11.5 x 33.5 เซนติเมตร
น้ำหนักของกล่อง – 3.9 กิโลกรัม
ขนาดของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น – 24.4 x 21.6 x 7.9 เซนติเมตร
น้ำหนักของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น – 1.8 กิโลกรัม
รายละเอียด อ้างอิงจาก iRobot
iRobot Braava เป็นหุ่นยนต์ถูพื้นที่สามารถทำความสะอาดพื้นแข็งได้ทุกประเภท รวมถึงพื้นกระเบื้อง ไวนิล พื้นไม้เนื้อแข็งและพื้นลามิเนต ผมทดสอบกับพื้นกระเบื้อง หลักการของมัน คือมีตัว Navigator ตัวนึงวางไว้ เพื่อระบุตำแหน่งในการควบคุมการทำงานด้วยระบบนำทาง NorthStar® ทำงานโดยใช้ GPS สร้างแผนที่เส้นทาง เพื่อให้หุ่นยนต์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกพื้นที่ของห้อง ตรงนี้ขึ้นอยู่กับเราวางเจ้าตัว ระบบนำทาง ไว้ตรงไหนของห้องหรือบ้าน โดยถูแห้งได้ 93 ตารางเมตร และถูเปียกได้ถึง 32 ตารางเมตร (เสร็จแล้วก็ขยับตัวนำทาง Cube ไปไว้อีกห้องนึง)
ตามสเปค เขาบอกว่า หยุดและเริ่มการทำงานต่อจากจุดเดิม แต่ทำไมของผมมันไม่กลับมาที่จุดเดิมก็ไม่รู้นะ อ้อ ถ้าอยู่ๆ เรายกมันขึ้นมาจากพื้น มันจะหยุดการทำงานอัตโนมัติ แล้วต้องกดปุ่มเริ่มทำงานต่อจากเดิมได้ ส่วนการการกลับมาจุดเริ่มต้น ไม่เห็นกลับมาที่เดิม สงสัยผมกดสั่งการแล้วปล่อยมันทำงานจนแบตหมดแหง
เรามาดูการนำทางระหว่าง Cube (ตัวกำหนดพื้นที่ GPS) กับหุ่นยนต์ ถ้าจะทำความสะอาดห้องขนาดใหญ่ ก็สามารถเพิ่มจำนวน cube ครอบคลุมพื้นที่ที่กว้างขึ้นมากถึง 185 ตร.ม. ในโหมดถูแบบแห้ง ต่อหนึ่งรอบการทำงาน มีหลายๆตัวได้ถ้าไม่อยากย้ายเอง
เงียบสนิท
ถ้าใครคุ้นเคยกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่น จะรู้ดีว่าเสียงดัง ก็แหงล่ะ ดูดฝุ่น การดูดใช้ลม ยังไงเสียงก็ดัง (แต่ก็ยังน้อยกว่าเครื่องดูดฝุ่นปกติแบบใช้มือ) ด้วยความที่ผมเคยลองหุ่นยนต์ถูพื้นมาแล้ว หุ่นยนต์ถูพื้น iRobot นอกจากเงียบแล้ว ยังเก่งกว่า ตรงที่สามารถหลบหลีกได้ฉลาด (หุ่นยนต์ถูพื้นแบรนด์อื่นที่ไม่ใช่ iRobot ผมทดลองใช้งานมาแล้ว ก็เลยเทียบได้ว่า สู้เรื่องความนิ่มและความฉลาดของ iRobot ไม่ได้) แต่ก็มีเหมือนกัน ที่ iRobot ลากถังขยะตามที่เล่าข้างบน ถ้ามีน้ำ ของเหลว ของเสียในถังขยะ หกขึ้นมาคงเลอะเทอะน่าดู เพราะมันจะกวาดเละห้องแน่
เรื่องความเงียบของหุ่นยนต์ถูพื้นเนี่ย มีเรื่องฮาๆจะเล่าให้อ่านครับ ก่อนหน้านี้ ตอนทดสอบหุ่นยนต์ถูพื้นอีกยี่ห้อนึงพอดีภรรยาผมนอนหลับอยู่ ผมก็เปิดหุ่นยนต์ถูพื้น แต่ไม่ได้บอกภรรยา แต่ภรรยาสะดุ้งตื่นเพราะเสียงหุ่นยนต์ถูพื้นชนเตียงเนี่ยแหล่ะครับ ตึ้งๆๆ จนไม่เป็นอันนอน หลอนมาก เสียงอะไรหว่า ผมชอบ iRobot ตรงที่ว่า มันเงียบมาก เพราะแม้จะชนมันก็นุ่ม มียางที่นุ่ม ช่วยรับแรงกระแทกได้ดี
ผมถึงมองว่า แบรนด์อื่นก็ไม่เดินชนได้นิ่มเท่า iRobot เพราะสุดท้ายลอง iRobot เทียบกันกับอีกแบรนด์ เอ่อ iRobot ฉลาดกว่าแฮะ มีกันชนแบบนุ่ม แถมเวลาเจอสิ่งกีดขวางก็จำไว้ แล้วหลีกเลี่ยงไม่ไปชนอีก (บางแบรนด์ไม่ฉลาดพอ ชนซ้ำๆ แถมเสียงดัง ตึ่งๆๆๆ) อ้อ เรื่องเซ็นเซอร์การตรวจจับระดับของพื้นก็เหมือนกัน เซ็นเซอร์อัจฉริยะ ช่วยได้เยอะ ป้องกันไม่ให้ Braava ตกบันได รวมถึงตรวจจับเพื่อหลีกเลี่ยงการทำงานบริเวณพรม แต่ถ้าพรมเช็ดเท้าผ้าธรรมดาทั่วไป มันลากไปเลย T__T ถ้าลืมปิดประตูห้องน้ำ iRobot ก็ไม่ทะลึ่งวิ่งลงไปเปียกน้ำในห้องน้ำ เพราะพื้นต่างระดับ และตัว GPS ฉลาดๆ มีผลมากจริงๆ
แต่นิดนึง เรื่องแบตเตอรี่ของตัวเครื่องเนี่ย ผมรู้สึกว่า ปล่อยมันทำงานไป ถูบ้านไป ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร ทั้งที่แบตเตอรี่ความจุ 2,000 mAh อาจจะเป็นเพราะเสียงเงียบด้วยแหล่ะ ทำให้บางครั้งเราลืม ว่าเปิดเครื่องอยู่ หันกลับมาอ้าว แบตหมดตายกลางอากาศแล้ว ตามสเปค
บอกว่า ทำความสะอาดได้นานถึง 4 ชม. สำหรับโหมดถูแห้งและ 2.30 ชม. สำหรับโหมดถูเปียก ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง แต่ผมไม่ทันได้จับเวลา เพราะปล่อยให้มันถู แล้วกลับมาเจอมานอนตายแล้ว
อ้อ จะบอกว่า การเสียบชาร์จ ใช้สายไฟอแดปเตอร์ชาร์จที่ด้านใต้ หรือวางบนแท่นชาร์จก็ได้
ว่าแล้ว เสียบชาร์จบนแท่นกันดีกว่า (อแดปเตอร์ อันเดียวกันแหล่ะครับ เพียงแต่ว่า เสียบใต้เครื่อง หรือเสียบแท่นชาร์จ)
ตอนแรกยังไม่ได้อ่านสเปค และคู่มือ เห็นแท่นชาร์จ ผมก็นึกว่า ก็แค่แท่นชาร์จ วางสวยๆมั้ง แต่ดูสเปคแล้วมันคือ แท่นเทอร์โบชาร์จ (Turbo Charge) ชาร์จแบตไว แต่บอกไว้ก่อนนะครับ หุ่นยนต์ถูพื้น ไม่ได้เดินกลับแท่นได้เองหมือนกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นนะเออ ยังไงเราก็ต้องเอามันยกขึ้นมาชาร์จไฟเอง
ถูบ้านกันนะตัวเอง
หุ่นยนต์ถูพื้น จะมีแท่นยึดผ้าถูพื้น ซึ่งจะมี ผ้าสีขาว ถูแห้ง และผ้าสีฟ้า ถูเปียก แต่ใส่น้ำยา หรือน้ำลงบนแท่นยึดผ้าถูพื้น (ตัวมันเป็นแม่เหล็กยึดกับหุ่นยนต์ถูพื้น) เขาบอกว่าทำความสะอาดด้วยระบบ Pro-Clean แต่ผ้าก็ยังเป็นผ้า ผมว่ายังไงก็ควรจะต้องซักผ้า เอาฝุ่นออกจากผ้าถูพื้นเอง
แต่ว่า ถ้าใครเป็นเซียนถูพื้น (ต้องไปถามป้าแม่บ้านที่ออฟฟิศซะแล้ว Braava 380t มีอุปกรณ์บรรจุน้ำแบบพิเศษ ช่วยให้ผ้าไมโครไฟเบอร์เปียกตลอดเวลา (มีอะไหล่ ให้เปลี่ยนด้วย) ถามว่าสะอาดไหม ผมว่าก็โอเคนะครับ แต่ไม่ใช่ว่า น้ำหกเลอะพื้นแล้วเอาหุ่นยนต์ถูพื้น ถู อันนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะดูดน้ำจนแห้งได้
การทำความสะอาดแบบแห้ง (ใช้ผ้าสีขาว)
กดปุ่มที่โหมดถูแห้ง ปุ่ม Sweep หุ่นยนต์จะเริ่มทำงาน (เคลื่อนที่ไปข้างหน้าเป็นเส้นตรง) ทุกซอกทุกมุม ช่วยเก็บสิ่งสกปรก เศษฝุ่นและผมได้ดี ในภาพ มีความดำ >_<“] (ผมไม่ได้กวาดพื้นด้วยแหล่ะ อยู่ๆเอาหุ่นยนต์ถูพื้นมาถูพื้นเลย)
การทำความสะอาดแบบเปียก (ใช้ผ้าสีฟ้า)
โหมดถูพื้นแบบเปียก Mop จะทำงานโดยเคลื่อนที่เป็นรูปตัว Y ทำความสะอาดด้วยผ้าแบบพิเศษ โดยจะมีช่องให้ใส่น้ำ จะใส่เฉพาะน้ำเปล่า ซึ่งผ้าที่ใช้เช็ดทำความสะอาด เป็นผ้าไมโครไฟเบอร์ (ซักได้) แล้วก็มีอุปกรณ์บรรจุน้ำ (Pro-Clean Pad) มาให้ด้วย
ระบบการทำความสะอาดแบบ Pro-Clean สะอาดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์แบบที่มีเส้นใยพิเศษ ดักจับฝุ่นและขจัดคราบบนพื้นได้เพียงแค่ใช้น้ำเปล่า (ตัวผ้ามีใยอยู่แล้ว ตามภาพ) ผ้าแบบนี้ดักฝุ่น จับฝุ่นได้ดี ทำให้ถูพื้นได้สะอาด
ราคา 16,900 บาท
จากการใช้งาน หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติ รุ่น iRobot Braava® 380t พบว่าใช้งานได้สะดวก เสียงขณะทำงานเงียบมาก หากชนสิ่งกีดขวางก็เงียบ เพราะมียางกันกระแทก ถือว่าช่วยเราถูพื้นได้ดีครับ เหมาะสำหรับใครที่มองหาผู้ช่วยในการถูพื้นมากๆเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ ใครสนใจ ตามห้างก็มี station วางเดโมโชว์ให้ดูครับ หรือดูข้อมูลที่ throbotics.com