วันนี้มีข้อมูลที่น่าสนใจ เรียกได้ว่าเป็นทางออก ข่าวดี สำหรับคนที่กลัวการผ่าตัด เพราะการปลูกผมก็คือการผ่าตัด การศัลยกรรม ทั้งนี้ การเข้ารับการปลูกผม หลังปลูกผมจะต้องทานยา เพื่อรักษาระดับของฮอร์โมน ไม่ให้เส้นผมหลุดร่วง ซึ่งบางคนก็อาจไม่ชอบทานยา
*บทความนี้ ได้รับการสนับสนุนจาก Million Hair Transplant Center ซึ่งผู้เขียนได้นำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ที่พูดคุยกับคุณหมอ นพ.ธิติวัฒน์ วีรโรจน์รัชกุล มาบอกต่อครับ
และขอออกตัวไว้ก่อนว่า บทความนี้ ทางผู้เขียนไม่ได้มีสินค้าจำหน่าย ถ้าพบปัญหาผมร่วง ผมบาง หนังศรีษะล้าน ปรึกษาคุณหมอได้เลยครับ
***หมายเหตุ ผลลัพธ์ที่ได้จากการรักษา ขึ้นอยู่กับสุขภาพของแต่ละบุคคล และวินัยในการทานยา หรือทายา***
ก่อนอื่น ต้องขอท้าวความกลับไปเรื่องการปลูกผม (หาอ่านได้ที่นี่) สาเหตุของผมร่วง ผมบางนั้น เกิดจากฮอร์โมน ดังนั้น แม้จะเข้ารับการปลูกผม ก็ต้องทานยาต่อ เพื่อระดับสภาพฮอร์โมนไม่ให้ผมหลุดร่างและบางลง ผมเองเคยไม่มีวินัยในการทานยา หยุดทานยาไป ทำให้ผมร่วงอีกครั้ง ดังนั้นวินัยจึงสำคัญมากๆ
ซึงวันนี้ แม้จะมีนวัตกรรมที่กำลังจะพูดถึงคือ DHT Blocker Lotion ก็จะต้องมีวินัยในการทายา แม้จะไม่อยากรับประทานยาก็ตาม ทาง MHC บอกว่า ผมที่ร่วงเป็นผลจากฮอร์โมน ยาที่กินเพื่อป้องกันผมในบริเวณอื่นนอกเขตที่ปลูกผมไม่ให้ร่วง ดังนั้น ยังไงก็ต้องทานยา และวันนี้ เราจะแนะนำ สำหรับคนที่ไม่อยากทานยา ให้มาทายา (อาจจะสะกดใกล้กันสักนิดนึง)
ข่าวดีสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องเส้นผม ผมบาง ผมร่วง ใครที่ยังลังเล เรามีตัวเลือกสำหรับคนที่ไม่อยากทานยา ไม่อยากปลูกผม วันนี้เรามีเซรั่มมาเป็นตัวช่วย แต่ย้ำว่า ผลลัพธ์ที่ได้จากการรักษา ขึ้นอยู่กับสุขภาพของแต่ละบุคคล ซึ่งเพื่อนๆ ที่เข้ามาถามเราเรื่องปลูกผม เราแนะนำให้ปรึกษาคุณหมอ เพราะคุณหมอให้คำแนะนำได้ เราอาจไม่ต้องปลูกผม ทานยาก็ได้ หรือทายา ก็ได้ มาเห๊อะ
กลับมาที่เรื่องการทานยา เคยมีการพูดต่อๆ กันว่า การกินยา ฟิแนสเทอไรด์ (Finasteride) ทำให้ความสมรรถภาพทางเพศลดลง ทำให้เป็นหมัน อสุจิน้อย แต่ทีจริงแล้ว คนที่ได้ยินได้ฟังมา ฟังไม่ครบ อ่านไม่ครบ ยา Finasteride มีแบบ 5 มิลลิกรัม และแบบ 1 มิลลิกรัม ซึ่ง 1 มิลลิกรัม ทานได้ ไม่มีผลข้างเคียง (เราก็ทาน 1 มิลลิกรัม) แต่ถ้าทานยา 5 มิลลิกรัม มีผลข้างเคียง อาจมีอารมณ์ทางเพศลดลง, อวัยวะเพศแข็งตัวยาก, มีปัญหาเรื่องของการหลั่ง, และน้ำอสุจิมีปริมาณน้อย แต่ก็เป็นเฉพาะบางราย ไม่ใช่ทุกคน ดังนั้น ที่ได้ยินได้ฟังมา ถูกครึ่งนึง อีกครึ่งนึงควรฟังให้จบ เพื่อให้เข้าใจได้อย่างถูกต้อง ส่วนยา Minoxidil อาจจะยังต้องกินอยู่ เพราะทำงานคนละหน้าที่กัน (ที่บอกว่าเปลี่ยนจากทานยาเป็นทายาคือยา Finasteride)
สำหรับคนที่ไม่ชอบทานยา เรามีทางออก เพราะปกติแล้วเมื่อรับการปลูกผมแล้ว จะต้องทานยาทุกวันตามการวินิจฉัยของคุณหมอ ซึ่งเราไม่ได้บอกว่าไม่ต้องกินยา แต่เราเปลี่ยนจากการกิน เป็นทา ด้วย DHT Blocker Lotion ที่คุณหมอบอกว่า ออกแบบสูตรพิเศษของใครของมัน แต่ละคนจะได้สูตรที่ปรับตามเฉพาะตัวบุคคล ยานี้ ทาอย่างมีวินัย ติดต่อกัน ระยะเวลา 6 เดือน จึงจะเริ่มเห็นผล (แต่ทาไปตลอดหรือตามคำสั่งแพทย์นะครับ) โดยเข้ามาติดตามการรักษาทุก 2 เดือน
ยานี้มีการ Customize หรือปรับสูตร ตามสภาพเส้นผมของแต่ละบุคคล โดยการปรับสูตรยา คุณหมอจะเป็นผู้ดูแล (ระยะเวลาผลิตยาต่อคน ไม่นานครับ คือรอรับได้เลย) มีการ Customize ปรับสูตรยาให้เป็นเซรั่มให้ตรงกับสภาพเส้นผมของแต่ละบุคคล อย่างเส้นผมของผู้เขียน เส้นใหญ่ แต่คุณหมอบอกว่า แม้จะได้ยาทาไปแล้ว ก็ให้กินยาไว้ด้วยตามปกติ อย่าเพิ่งรีบหยุด (กิน) ยา เพราะยา (ทา) ยังไม่ซึมเข้าไป ให้กินยาพร้อมๆกับการทายาไปก่อน แล้วอีก 2 เดือนค่อยมาว่ากัน
หลักการของ DHT Blocker Lotion คือยาทาที่เป็นเซรั่ม แม้ชื่อจะเป็นโลชั่นแต่มันก็มีความหนืด การทำงานคล้ายเม็ดบีทแคปซูลเล็กๆ (เราไม่ได้เห็นแคปซูลหรอก) แล้วไปอยู่บนผิวหนังของเรา ซึมเข้าไป แต่เตือนไว้ก่อนว่า ยาตัวนี้ Block การทำงานของ DHT มีผลกับสตรีมีครรภ์ (แต่สตรีวัยหมดประจำเดือนทานได้)
ส่วนค่าใช้จ่ายอาจจะสูงกว่ายาปกติ เพราะเข้มข้นมาก 2,500 – 3,500 บาท ต่อขวด ขึ้นอยู่กับสูตรที่เหมาะสมกับแต่ละคน ขวดนึงใช้ทุกวันได้ประมาณ 1 เดือน การใช้งานเหมือนเซรั่ม ใช้ครั้งนึงปลายๆ นิ้ว แล้วทาบริเวณที่ปลูกผม แนะนำให้ใช้ก่อนนอน เนื่องจากมีความหนืด (เพราะเข้มข้นมาก) บางคนก็เลยไม่อยากทาก่อนออกไปข้างนอกเพราะความหนืดของมัน การทาตอนเช้าก่อนไปทำงาน บางคนอาจไม่สะดวกนัก
วิธีการใช้ DHT Blocker Lotion ให้สระผม แล้วก่อนนอนก็ทา นอนหลับตื่นขึ้นมาก็สระผมล้างออก ความรู้สึกหลังใช้งานมา 2 สัปดาห์ มีความหนืด ข้น ฉีดใส่มือแล้วเอาทาผม กลิ่นไม่เหม็น มีลืมทาบ้าง แต่ยาก็ยังกิน แต่เราต้องมีวินัยทาทุกวัน เราเป็นผู้ชายที่ไม่ทาครีม ไม่ทาโลชั่น ไม่ใช้อะไรบำรุงเลย ก็ต้องมีวินัยสุดๆ
ตอนนี้ คุณหมอเริ่มให้คนไข้ใช้ไปประมาณ 700 คนแล้ว ผมก็ได้รับโอกาสในการใช้งาน DHT Blocker Lotion ใช้งานมาร่วม 2 สัปดาห์แล้ว จึงมาเขียนบล็อกนี้ คำแนะนำของยานี้คือ หากเป็นผู้หญิงที่มีอายุเยอะแล้ว หมดประจำเดือนแล้ว สามารถใช้ได้ แต่ผู้หญิงปกติ ไม่ควรใช้งาน เนื่องจากมีผลต่อฮอร์โมน และหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ไม่สามารถใช้บริการนี้ได้เพราะจะมีผลต่อทารกในครรภ์
ถ้าใครอยากใช้ DHT Blocker Lotion ยังไม่มีขายในท้องตลาด เพราะ Customize สำหรับแต่ละคน เราไปหาคุณหมออีกรอบ ก็ปรับสูตรให้เราเฉพาะ คนไหนที่ไม่อยากทานยา ก็อยากจะให้เริ่มด้วยการรักษาด้วย DHT Blocker ครับ และสำหรับคนที่กลัวการผ่าตัด ไม่อยากผ่าตัดปลูกผม ใช้ยานี้ได้ หรือใครไม่อยากทานยา ก็ใช้ได้ แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของคุณหมอ และผลลัพธ์ที่ได้จากการรักษา ขึ้นอยู่กับสุขภาพของแต่ละบุคคลทั้งนี้ สำหรับใครที่ติดตามเราใน Facebook จะเห็นว่าผมเราขึ้นเยอะ แต่นั่นเพราะการทานยาทุกวัน การมีวินัยในตนเอง การปลูกผมเป็นเพียงการเพิ่มเส้นผมในบริเวณที่บาง แต่การรักษาให้ยั่งยืนต้องมีวินัยสูง
ขอบคุณข้อมูลและการสนับสนุนจาก Million Hair Transplant Center