by อัปเดตข้อมูลปี 2563 : บทความนี้เขียนไว้ตั้งแต่ปี 2561 ก็ยังใช้อ้างอิงได้อยู่ แต่ในรายละเอียด แนะนำให้สอบถามพนักงานไปรษณีย์ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ THP Contact Center 1545 ย้ำนะครับ แพ็กของให้ดี มีอุปกรณ์กันกระแทกให้พร้อม
ปกติ เราไม่ไว้วางใจไปรษณีย์ไทยในการส่งของมีค่า ก็พยายามไปใช้ขนส่งเอกชน Kerry อะไรพวกนี้ อุ่นใจกว่า แต่วันนี้ไปส่งของที่ไปรณีย์เอกชนใกล้ออฟฟิศ ก็คุยกับร้านเขาว่า ถ้าส่งของมีค่า ไปรษณีย์ไทยเขามีประกันไหม เขาบอกว่า ซื้อประกันเพิ่มได้ สูงสุด 30,000 บาท แต่พอเราค้นเน็ต ระบุว่า สูงสุด 50,000 บาท (อ้างอิง)
โดยไปรษณีย์ไทย มีบริการฝากส่งสิ่งของมูลค่าสูง โดยสามารถซื้อประกันเพิ่มได้ ผ่านบริการเสริมพิเศษ “ซื้อประกันเพิ่ม” พร้อมมูลค่าประกันสูงสุดในวงเงิน 50,000 บาท โดยมีค่าบริการ 10 บาทต่อวงเงินรับประกันทุกๆ 500 บาท พร้อมค่าปฎิบัติการ 15 บาท นั่นคือ ถ้าของ 5,000 ก็จ่าย 50 บาท + 15 บาท เป็น 65 บาท
แต่ถ้าฝากส่งสิ่งของที่มีน้ำหนัก 20 กิโลกรัมขึ้นไป ภายในประเทศ และบริการโลจิสโพสต์ (Logispost) ในประเทศ จะมีค่าบริการ 6 บาทต่อวงเงินรับประกันทุกๆ 500 บาท พร้อมค่าปฏิบัติการ 15 บาท มูลค่าการชดใช้สิ่งของฝากส่งเป็นไปตามเงื่อนไขที่ไปรษณีย์ไทยกำหนด
จากที่คุยกับร้าน เขาบอกว่า กล่องจะถูกปิดด้วยเทปสีแดง และไม่มีใครกล้ายุ่ง กล้าแตะเลย เพราะอย่างเราจ่ายประกัน 50,000 ไปรษณีย์ไทย ก็ไม่ยอมขาดทุนเสียเงินชดเชยให้เราแน่ๆ ร้านบอกว่า ไม่มีใครกล้าแตะของเราเลยจริงๆ ทะนุถนอมเป็นอย่างดีมากๆ เพราะกลัวต้องจ่าย
แต่จากที่อ่านในเว็บบอร์ด มีคนบอกว่า ต้องแพ็กกล่องต่อหน้าเจ้าหน้าที่ อันนี้ เหตุเพราะ มีคนขี้โกง ที่ยัดก้อนหิน แล้วเคลมเงินประกัน
โดยเงื่อนไขปกติของการส่งของ มีการชดใช้ค่าเสียหายในกรณีสูญหาย/เสียหายระหว่างการจัดส่งทางไปรษณีย์ตามมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงแต่ไม่เกิน 2,000 บาท/ชิ้น ทั้งนี้ สามารถซื้อประกันเพิ่มได้สูงสุดถึง 50,000 บาท
ปิดท้าย ย้ำอีกที ไปรษณีย์ไทย รับประกันของสูญหาย นะครับ ไม่ได้รับประกันของ เสียหาย ซึ่งเราจะต้องแพ็กของดีๆ และไม่งก Air Bubble และบรรจุภัณฑ์หีบห่อต้องแข็งแรงครับ
โดยผู้ใช้บริการสามารถสอบถามหรือเลือกซื้อประกันจากการฝากส่งเพิ่มได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ ที่มา เดลินิวส์
