26 มกราคมนี้ สัมผัสประสบการณ์วิดีโอที่เหนือกว่าด้วย OPPO FDF Portrait Video System ใน OPPO Reno5 Series 5G
เตรียมมอบประสบการณ์วิดีโอที่เหนือกว่าด้วย OPPO FDF Portrait Video System ใน OPPO Reno5 Series 5G พบกัน 26 มกราคมนี้
จากการเข้ามาของยุค 5G ทำให้เทรนด์การถ่ายวิดีโอเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเทรนด์นี้ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ยุค 4G แต่ด้วยความเร็วแรงที่เพิ่มมากขึ้นในยุค 5G ทำให้เทรนด์นี้ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง เพราะทำให้การเข้าชม ดาวน์โหลด และอัปโหลดวิดีโอเป็นเรื่องง่าย รวมถึงสื่อต่างๆ ที่มีความหลากหลาย เริ่มสร้างรูปแบบการสื่อสารและถ่ายทอดผ่านวิดีโอมากขึ้น ทำให้ยุค 5G ถูกขนานนามว่าเป็นยุคของวิดีโอเลยทีเดียว ดังนั้น ประสบการณ์ด้านการถ่ายวิดีโอในสมาร์ทโฟน จึงได้กลายมาเป็นปัจจัยที่สำคัญในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนในปัจจุบันและอนาคตอีกด้วย
ดังนั้น เพื่อมอบประสบการณ์ด้านวิดีโอที่เหนือว่า OPPO จึงได้พัฒนาระบบการถ่ายวิดีโอขั้นสูงด้วย OPPO Full Dimension Fusion (FDF) Portrait Video System ที่จะมีอยู่ใน OPPO Reno5 Series 5G รุ่นใหม่ล่าสุด ที่พร้อมตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในการสร้างสรรค์วิดีโอที่หลากหลายในทุกสถานการณ์ อีกทั้งช่วยให้ผู้ใช้ได้บันทึกทุกช่วงเวลาที่มีความสุขในชีวิตได้ด้วยวิธีง่ายๆ ผ่านการถ่ายวิดีโอที่มีคุณภาพระดับมืออาชีพ
OPPO Full Dimension Fusion Portrait Video System สร้างวิดีโอ Portrait ที่สวยคมชัด สะกดทุกมุมมอง
ด้วยประสบการณ์ด้านการถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนมาอย่างยาวนาน OPPO เชื่อว่าวิธีที่ดีที่สุดในการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค คือ การรวมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่สมบูรณ์แบบเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ OPPO Full Dimension Fusion Portrait Video System ของ OPPO ทำงานบนพื้นฐานฮาร์ดแวร์ด้านการถ่ายภาพและวิดีโอระดับท็อปควบคู่ไปกับซอฟต์แวร์อัจฉริยะ โดยประกอบไปด้วย Quality Enhancement Engine ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจับภาพที่คมชัดได้ในทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางวัน กลางคืน หรือแม้กระทั่งในขณะที่วัตถุมีการเคลื่อนไหวก็ตาม และ Portrait Perception Engine ที่ช่วยให้บุคคลและพื้นหลังในวิดีโอมีความคมชัดและเป็นธรรมชาติ พร้อมให้ผู้ใช้สามารถใช้เอฟเฟกต์ในวิดีโอ Portrait ได้อีกด้วย
Quality Enhancement Engine สวย คมชัด ทุกที่ ทุกเวลา
Quality Enhancement Engine คือชุดอัลกอริทึมที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพวิดีโอที่มีคุณภาพได้ในทุกสถานการณ์ เช่น AI Highlight Video ที่รวมเอาอัลกอริทึมอัจฉริยะอย่าง Ultra Night Video และอัลกอริทึม Live HDR เข้าไว้ด้วยกันเป็นครั้งแรกของ OPPO ด้วยการตรวจวัดระดับแสงของฉากมาปรับความสว่าง สี และความชัดเจนในวิดีโอให้เหมาะสมที่สุด ซึ่งมีอยู่ในทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังของ OPPO Reno5 series 5G เพียงผู้ใช้กดปุ่มเพียงปุ่มเดียวก็สามารถเริ่มถ่ายวิดีโอที่คมชัด สมจริงและสวยอย่างเป็นธรรมชาติได้แล้ว นอกจากนี้ ใน Quality Enhancement Engine ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหวรุ่นใหม่ของ OPPO นั่นคือ Ultra Steady Video 3.0 ซึ่งมีความสามารถในการป้องกันภาพสั่นไหวในช่วงของวิดีโอที่กว้างขึ้น ไม่ว่าจะกำลังวิ่ง กระโดด หรือแม้แต่เล่นกีฬาต่างๆ
Portrait Perception Engine สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์กับความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัด
แน่นอนว่าการสร้างวิดีโอคุณภาพสูงนั้นเป็นมากกว่าแค่วิดีโอที่คมชัดเพียงอย่างเดียว เพราะต้องให้ผู้ใช้สามารถถ่ายวิดีโอได้อย่างโดดเด่นด้วยสไตล์และบุคลิกที่แตกต่างกัน ดังนั้น ในการตอบโจทย์เรื่องนี้ OPPO ได้เตรียมฟีเจอร์ที่พร้อมเผยความเป็นตัวตนของทุกคนออกมา ได้แก่ AI Mixed Portrait, AI Color Portrait และ Monochrome Video ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างเรื่องราวที่มีความหมายได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ อัลกอริทึม Portrait Perception Engine ยังคงสามารถระบุคุณสมบัติเฉพาะและจดจำใบหน้าของแต่ละบุคคลได้อย่างแม่นยำ และยังสามารถตรวจจับและติดตามการเคลื่อนไหวของมนุษย์ในวิดีโอได้อีกด้วย ทำให้สามารถแบ่งแยกตัวบุคคล ออกจากภาพพื้นหลังของวิดีโอที่มีความซับซ้อนได้อย่างแม่นยำ ด้วยเทคนิคนี้ ทำให้เอฟเฟกต์อย่าง AI Mixed Video หรือ AI Color Portrait สามารถเปลี่ยนตำแหน่งของบุคคลและพื้นหลังภายในวิดีโอได้อย่างราบรื่นและเป็นธรรมชาติ
ตั้งแต่เริ่มต้นจนมาถึง OPPO Reno5 Series 5G ผู้ใช้ได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอันทรงพลังของ OPPO ในด้านการถ่ายวิดีโอ การตัดต่อ หรือแชร์วิดีโอที่มีความซับซ้อน ด้วยวิธีการที่เรียบง่ายผ่านการสร้างเรื่องราวของตนเองออกมา และนี่คือจุดแข็งของ OPPO ที่ว่า ไม่ได้มีเพียงแค่ความสามารถในการพัฒนาอัลกอริทึมและเทคนิคการประมวลผลของตัวเองเท่านั้น แต่ยังสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ โดยท้ายที่สุดแล้วความเชื่อของ OPPO คือ การให้ความยุ่งยากซับซ้อนมาอยู่ที่ตนเอง เพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดสู่ผู้ใช้เสมอ
การสำรวจนวัตกรรมด้านการถ่ายภาพ
เป็นเวลาหลายปีที่ OPPO ทุ่มเททรัพยากรที่สำคัญ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีการถ่ายภาพและวิดีโอที่ดีที่สุดในสมาร์ทโฟน ซึ่ง OPPO มีทีมวิจัยและพัฒนาด้านภาพขั้นสูงทั่วโลกถึง 5 ทีม ทั้งใน Yokohama, Silicon Valley, Shanghai, Shenzhen และ Chengdu ซึ่งทีมเหล่านี้ทำงานเพื่อค้นหาวิธีการถ่ายภาพที่ทันสมัยที่สุด ทำให้ OPPO ได้สร้างความสำเร็จที่สำคัญในอุตสาหกรรมนี้ไปเมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา โดย OPPO ได้ยื่นขอสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพมากถึง 7,300 ฉบับทั่วโลก ซึ่งในจำนวนนั้นได้รับการอนุญาตแล้วทั้งสิ้น 2,350 ฉบับ
ความคิดที่จะก้าวไปข้างหน้าเปรียบดั่งภาพรวมของเทคโนโลยีในอนาคต ทำให้ OPPO ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติในงานประกาศผลรางวัล CVPR ประจำปีนี้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นงานประกาศรางวัลด้านอุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุดแห่งปี อีกทั้งยังได้รับรางวัลอันดับ 1 ในการแข่งขัน “Perceptual Extreme Super-Resolution challenge” และ“ Visual localization for handheld devices challenge” รวมถึงได้รางวัลอันดับ 3 ในการแข่งขัน “Activity detection in extended videos” อีกด้วย
โดยในอนาคตอันใกล้นี้ OPPO จะยังคงทำการสำรวจและวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านการถ่ายภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำนวัตกรรมเหล่านี้มาสู่กล้องในสมาร์ทโฟน และพร้อมมอบประสบการณ์ด้านวิดีโอที่ง่ายและเหนือกว่าให้กับผู้ใช้ในยุค 5G แล้วพบกันกับเทคโนโลยีด้านการถ่ายภาพและวิดีโออันล้ำสมัย ในงานเปิดตัว OPPO Reno5 Series 5G ในรูปแบบออนไลน์ผ่านทาง Facebook, YouTube และ Line Official ของ OPPO Thailand ในวันที่ 26 มกราคมนี้ ตั้งแต่เวลา 19.00 เป็นต้นไป
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/oppothai